การทำเว็บไซต์ให้ติดหน้าแรกบน Search Engine อย่าง Google เป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักที่คนทำเว็บไซต์ทุกคนตั้งไว้ เพราะจะช่วยให้คนมองเห็นเว็บไซต์และเข้ามาใช้งานมากขึ้น ทำให้ตัวเว็บไซต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น การสร้างแบรนด์ หรือเพิ่มยอดขาย
สำหรับใครที่ไม่รู้จะเริ่มต้นปรับปรุงเว็บไซต์ของตนเองให้ติดหน้าแรกบน Google ยังไงดี เราจะพาไปทำความรู้จักกับการทำ Technical SEO หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของการทำ SEO (Search Engine Optimization) กัน แล้ว Technical SEO คืออะไร? ต้องทำอย่างไร? ตามไปดูกันเลย!
Technical SEO คืออะไร?

Technical SEO คือ กระบวนการเชิงเทคนิคในการปรับแต่งและพัฒนาเว็บไซต์ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งต่อตัว User ที่เข้ามาใช้งาน และ Googlebot ที่เข้ามาเก็บข้อมูลเนื้อหาบนเว็บไซต์ไปจัดอันดับ จัดเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของการทำ SEO ที่ทุกคนไม่ควรมองข้าม เพราะจะช่วยเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ไปปรากฏในผลการค้นหาและติดอันดับหน้าแรกของ Google นั่นเอง
Technical SEO มีความสำคัญต่อการทำเว็บไซต์อย่างไร?

ก่อนที่เว็บไซต์ของเราจะถูกนำไปแสดงบนผลการค้นหาของ Google จะถูกคัดเลือกและจัดอันดับโดย Googlebot ก่อน ซึ่งจะทำงานโดยการเข้ามาอ่านข้อมูลบนเว็บไซต์ (Crawling) นำไปวิเคราะห์และจัดเก็บที่ฐานข้อมูล (Indexing) แล้วค่อยไปแสดงผลบนหน้าจัดอันดับ (Ranking)
ถ้า Googlebot ไม่สามารถเข้ามาอ่านเว็บไซต์ของคุณได้ เว็บไซต์ของคุณก็จะไม่ถูกจัดอันดับบน Google การทำ Technical SEO จึงมีความสำคัญมากต่อการทำเว็บไซต์มากนั่นเอง
นอกจากนี้การทำ Technical SEO ยังรวมไปถึงการปรับปรุงการแสดงผลต่างๆ บนเว็บไซต์เพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับ User และช่วยเพิ่มยอด Conversion ให้กับเว็บไซต์อีกด้วย
8 เทคนิค Technical SEO ช่วยให้เว็บไซต์ติดหน้าแรก Google
หลังจากที่รู้แล้วว่า Technical SEO คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไรต่อการทำเว็บไซต์ ขั้นตอนต่อไป เราจะพาไปดูการทำ Technical SEO ในเบื้องต้นกัน สามารถลองนำไปใช้กับเว็บไซต์ของคุณได้เลย รับรองว่าจะช่วยเพิ่มอันดับให้กับเว็บไซต์ได้อย่างแน่นอน

ใช้ HTTPs เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับเว็บไซต์
HTTPs (Hypertext Transfer Protocol Secure) จะมีความปลอดภัยมากกว่า HTTP เพราะใช้ SSL Certificate เข้ามาช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับเว็บไซต์ ทำให้ข้อมูลที่ส่งระหว่างผู้ใช้งานและเว็บไซต์ถูกเข้ารหัส ไม่ถูก Hack ข้อมูล โดยผู้ไม่ประสงค์ดี จัดเป็นหนึ่งในสิ่งที่ Google ให้ความสำคัญมาก ถ้าเว็บไซต์ของคุณยังไม่มี อย่าลืมไปติดตั้งให้เรียบร้อย
ออกแบบ Site Structure ให้เรียบร้อย
การจัดวางโครงสร้างเว็บไซต์ (Site Structure) เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วยให้ Googlebot เข้ามารวบรวมข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถทำได้ง่ายๆ โดยตั้ง URL Slug ที่ชัดเจน เข้าใจง่าย ใช้เมนูที่ใช้นำทางในเว็บไซต์อย่าง Breadcrumb Navigation และทำ Internal link เพื่อเชื่อมโยงเนื้อหาต่างๆ เข้าหากัน
ติดตั้ง Google Search Console
Google Search Console คือ บริการฟรีจาก Google ที่จะช่วยให้คุณตรวจสอบและดูแลเว็บไซต์ให้ติดอันดับบนผลการค้นหาของ Google ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยคนที่ทำเว็บไซต์ใหม่ แนะนำให้ติดตั้งเว็บไซต์บน Google Search Console ให้เรียบร้อย หลังจากนั้นให้นำเนื้อหาบนเว็บไซต์ทั้งหมดไป Request Indexing ก็จะช่วยให้ติดอันดับได้ง่ายขึ้น
ทำ XML Sitemap ให้กับ Search Engine
การสร้าง XML Sitemap แล้วนำไปอัปโหลดลง Google Search Console เป็นการทำ Technical SEO ที่มีความสำคัญมากเช่นกัน เพราะจะช่วยนำทางให้ Googlebot เข้ามาอ่านเนื้อหาบนเว็บไซต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถสร้างได้ง่ายๆ โดยการใช้เครื่องมือ XML Sitemap Generator ที่มีอยู่บนเว็บไซต์ต่างๆ ได้เลย
ใช้ไฟล์ Robots.txt นำทาง Bot เก็บข้อมูล
การตั้งค่าไฟล์ Robots.txt ให้ถูกต้อง เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญของการทำ Technical SEO เพราะจะช่วยนำทางให้ Googlebot รู้ว่าหน้าไหนควรเก็บข้อมูล และหน้าไหนที่ไม่ควรเก็บข้อมูล โดยหนึ่งในปัญหาที่พบได้บ่อยก็คือการไปตั้ง noindex ในหน้าเนื้อหาเว็บไซต์ต่างๆ ทำให้ Googlebot เข้ามาจัดเก็บข้อมูลไม่ได้ ถ้าหากพบว่ามีการตั้ง noindex ไว้ อย่าลืมลบออก แล้วตั้ง follow หรือ index ให้เรียบร้อย
ปรับปรุง Page Speed และ Core Web Vitals
ความเร็วในการโหลดหน้าเว็บไซต์ (Page Speed) และ Core Web Vitals เป็นหนึ่งในเกณฑ์ที่ Google ให้ความสำคัญมาก เพราะจะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งาน โดยคุณสามารถตรวจสอบได้ด้วยเครื่องมือของ Google อย่าง PageSpeed Insights ซึ่งจะช่วยวิเคราะห์ปัญหาต่างๆ บนเว็บไซต์ ให้คุณนำไปแก้ไขได้เลย
ออกแบบเว็บไซต์ให้ Mobile-Friendly
เป็นการออกแบบเว็บไซต์ให้แสดงผลบนสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตได้อย่างมีประสิทธิภาพ จัดเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญในการทำ Technical SEO เลย เนื่องจากผู้ใช้งาน Google ส่วนใหญ่ใช้งานผ่านสมาร์ทโฟน ถ้าเว็บไซต์ของคุณไม่รองรับ รับรองว่าถูกหักคะแนนจาก Google มากแน่นอน โดยสามารถเช็กได้ผ่าน PageSpeed Insights เช่นกัน
ทำ Schema Markup
การทำ Schema Markup เป็นการใส่ชุดโค้ดลงไปบนหน้าเว็บไซต์ เพื่อให้ Googlebot เข้าใจเนื้อหาบนหน้าเว็บไซต์นั้นๆ มากขึ้น เช่น Articles, Product, Carousel, FAQ, Local Business หรือ Review เป็นต้น ซึ่งคุณสามารถใช้เครื่องมือ Structured Data Markup Helper ในการสร้างชุดโค้ดได้เลย
บทส่งท้าย
เป็นยังไงกันบ้างกับข้อมูลเกี่ยวกับ Tecnical SEO ที่เรานำมาฝากในบทความนี้ หวังว่าจะช่วยคลายข้อสงสัย Technical SEO คืออะไร และทำให้คุณรู้ว่า ควรเริ่มปรับปรุงเว็บไซต์ของตนเองตรงส่วนไหน เพื่อช่วยให้ Googlebot เข้ามาอ่านข้อมูลและนำไปจัดอันดับได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม นอกจากการทำ Technical SEO แล้ว อย่าลืมให้ความสำคัญกับการทำคอนเทนต์ที่มีคุณภาพและถูกหลัก SEO ด้วย ถ้าทำควบคู่กันไป รับรองว่าจะช่วยให้เว็บไซต์คุณติดอันดับหน้าแรกบน Google ได้ไม่ยาก
สำหรับใครที่กำลังมองหาบริษัทรับทำ SEO เพื่อดันอันดับเว็บไซต์ให้ติดอันดับหน้าค้นหาของ Google ที่ Search Studio เรายินดีให้คำปรึกษาในด้านการทำ SEO ให้กับธุรกิจของคุณ เรามีทีมงานมืออาชีพที่พร้อมช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ของคุณในทุกด้าน สามารถติดต่อเราเพื่อขอรับคำปรึกษาฟรีได้ที่ admin@searchstudio.digital