ทุกคนอาจจะเคยคุ้นหูกับคำว่า SEO มากันบ้างแล้วในแวดวงของธุรกิจและการตลาดออนไลน์ ซึ่ง SEO ย่อมาจาก Search Engine Optimization และถือเป็นฮีโร่ที่ช่วยทำให้ธุรกิจของเราโดดเด่นกว่าของใครเพื่อนเลยก็ว่าได้ เพราะคนที่มีเทคนิคทำ SEO เป็นจะช่วยดึงเว็บไซต์ของเราให้ปรากฎอยู่ในอันดับต้นๆ ของหน้าแสดงการค้นหาของ Google ได้นั่นเอง ซึ่งยิ่งอันดับสูงก็ยิ่งทำให้ผู้เข้าชมจะได้เห็นเว็บไซต์ของเราก่อนของคู่แข่งนั่นเอง และนี่ก็นับว่าเป็นความเท่ห์ของ แต่นอกจาก SEO แล้ว เรายังมี Google Ads ที่เราจะได้เจาะลึกกันถึงแง่มุมของมันกันว่า SEO หรือ Google Ads คืออะไร ต่างกันอย่างไร อะไรจะดีกว่ากัน!
SEO คืออะไร
SEO ถือเป็นวิธีที่ช่วยทำให้เว็บไซต์ของเราติดอันดับต้นๆ ของหน้าการค้นหาใน Google ได้ด้วยเทคนิคต่างๆ รวมทั้งการใช้คีย์เวิร์ด ถ้าทำ SEO อย่างค่อยเป็นค่อยไปและสม่ำเสมอ เราก็จะสามารถปรากฎอยู่ในหน้าแรกของกูเกิ้ลได้ในระยะยาว และด้วยคีย์เวิร์ดที่เราต้องการด้วย
ถ้าให้เปรียบก็เหมือนเราสร้างบ้าน เราค่อยๆ สร้างพื้นที่ให้ตัวเราเอง แต่ทุกอย่างก็ต้องค่อยเป็นค่อยไป แรกๆ อาจจะคลุกคลักเล็กน้อย แต่เมื่อวันหนึ่งเรามีฐานที่มั่นที่มั่นคงแข็งแรงเราก็จะเริ่มอยู่ตัว แต่หลังจากนั้นก็ต้องคอยหมั่นรักษาตำแหน่งทำเลของเรากันต่อไป เพราะคู่แข่งใหม่ๆ ที่เข้ามาเองก็จ้องอยากได้ทำเลที่ดีของเราอยู่เหมือนกัน
SEO ทำงานยังไง
หากใครกำลังสงสัยว่า SEO มันทำงานยังไงล่ะก็ คำตอบก็ง่ายมากๆ เลยล่ะ เพราะ Google ใช้เครื่องมือ Algorithm ในการเลือกสรรว่าเว็บไซต์ไหนควรจะได้ขึ้นมาเป็นหน้าแรกๆ ของการค้นหา เพราะ Google จะเลือกนำเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาสาระและมีประโยชน์ต่อผู้เข้าชมมาไว้ในหน้าแรกๆ เท่านั้น SEO ก็จะทำงานสอดคล้องกับ Algorithm ของ Google คนที่ทำ SEO ก็จะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเว็บไซต์ด้วยวิธีต่างๆ เพื่อให้เพจต่างๆ ในเว็บนั้นได้ถูกดันขึ้นไปอยู่บนตำแหน่งดีๆ นั่นเอง
เราใช้ประโยชน์อะไรจาก SEO ได้บ้าง
หลังจากที่เราดูกันไปแล้วว่า SEO คืออะไร ทำงานยังไง ทีนี้ต่อมาเราจะมาดูกันต่อในประเด็นที่ว่า SEO มีดีอะไรต่อธุรกิจของเรา หลักๆ เลยก็คือมันจะช่วยทำให้เว็บไซต์ของเรากลายเป็นจุดเด่นติดอันดับบนหน้าแสดงผลการค้นหาของ Google ได้ โดยที่เราไม่ต้องเสียเงินซื้อ Ads เราต้องพยายามผลิตเนื้อหาให้สม่ำเสมอและมีสาระ เพื่อให้เว็บไซต์ของเรานั้นถูก Google Algorithm ดึงขึ้นไปเป็นที่ประจักษ์ตาต่อสายตาของใครต่อใคร
Google Ads คืออะไร และมันทำงานยังไง
Google Ads หรือที่ในอดีตเรียกกันว่า Google Adwords แตกต่างจาก SEO ตรงที่ว่า Google Ads ใช้สำหรับเจ้าของธุรกิจที่ต้องการทำโฆษณาออนไลน์บนเครือข่ายของ Google เพื่อเรียกลูกค้าให้เข้าถึงเว็บไซต์ของเราได้ง่ายขึ้น Google Ads จะช่วยเชื่อมต่อเจ้าของธุรกิจให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ง่ายมากขึ้น และได้ผลทันที ไม่ได้ค่อยเป็นค่อยไปเหมือนการทำ SEO นั่นเพราะเราต้องมีงบในการรันโฆษณานั่นเอง ทุกครั้งที่มีคนคลิกที่ Ads ของเราเพื่อเข้าสู่เว็บไซต์ เราก็จะเสียเงินเป็นการแลกเปลี่ยนต่อ Traffic นั้น
แล้วอะไรคือ Google Ads
เมื่อเราใช้บริการของ Google Ads หน้าเว็บไซต์ของเราจะถูกปรากฎตัวเป็นกล่องขนาดเล็กๆ ทางด้านขวามือหรือด้านบนเว็บกูเกิ้ล ทุกครั้งที่มีผู้เสิร์ชข้อมูลใกล้เคียงกับตัวเนื้อหาในเว็บไซต์ของเรา รวมทั้งจะมี tag ติดไว้ว่า Ads แตกต่างจากผลที่ได้จาก SEO ซึ่งจะเป็นการได้มาซึ่งตำแหน่งบนหน้าแสดงผลแบบธรรมชาติ
Google Ads ทำงานยังไง
หากใครยังไม่ค่อยเข้าใจว่า Google Ads มันทำงานยังไงล่ะก็ ให้นึกถึงว่ามันคือการทำโฆษณาบนโลกออนไลน์นั่นเอง ซึ่งถ้าหากใครอยากโปรโมทธุรกิจของตัวเองให้กลายเป็นที่โดดเด่นในสายตาของกลุ่มลูกค้าได้แบบง่ายๆ ล่ะก็ ก็คือต้องจ่ายเงินเพื่อให้ได้พื้นที่โฆษณา หากถามว่า เหมือน SEO มั้ย ก็ตอบได้เลยว่า ไม่เหมือนเลย เพราะ SEO ไม่ต้องเสียเงินใดๆ สักบาทเมื่อมีคนคลิกเข้าเว็บไซต์
Google Ads ใช้ทำอะไรได้บ้าง
Google Ads นั้นใช้สำหรับเจ้าของธุรกิจหรือเจ้าของบริษัทที่มีงบประมาณและต้องการลงทุนจ่ายเงินเพื่อให้ตัวเว็บไซต์เป็นที่ประจักษ์ตาต่อกลุ่มลูกค้าที่ต้องการบนหน้าแสดงผลการค้นหาของกูเกิ้ลทันที โดยอาศัยเครื่องมือที่มีชื่อว่า PPC หรือ Pay Per Click ที่จะทำให้เว็บไซต์ของเราปรากฎอยู่บนหน้าแสดงผลการค้นหา แล้วเราก็จะเสียเงินทุกครั้งที่มีคนคลิก แต่การเสียเงินนี้ก็แลกกับการที่เว็บไซต์ของเราได้ผ่านสายตาของกลุ่มเป้าหมาย หรือถ้าโชคดีกลุ่มเป้าหมายก็อาจจะกลายมาเป็นลูกค้าของเราได้ในอนาคต
เลือก Google Ads หรือ SEO ดีนะ
หลังจากที่เราได้รู้กันไปแล้วแบบคร่าวๆ ถึงความแตกต่างระหว่าง Google Ads กับ SEO แล้วนั้น ต่อมาเราจะมาดูกันว่า แต่ละตัวมีข้อดีและข้อเสียต่างกันยังไงบ้าง ตัวไหนเหมาะกับการทำระยะสั้นๆ และตัวไหนเหมาะกับระยะยาว มาดูกัน!
ความแตกต่างระหว่าง SEO กับ Google Adwords
ความแตกต่างที่เห็นกันได้ชัดๆ เลยก็คือ
ความรวดเร็ว
หากเราลงทุนจ่ายเงินเพื่อทำ Google Ads ไปล่ะก็ มันจะทำให้เว็บไซต์ของเรา ได้ขึ้นไปปรากฎบนหน้าแรกของหน้าแสดงผลการค้นหาทันทีด้วยคีย์เวิร์ดที่เราต้องการทันที ต่างกับการทำ SEO ที่ต้องใช้เวลาสักพักแล้วแต่ความยากง่ายของคีร์เวิร์ดที่เราต้องการจะติดอันดับ
ต้นทุนค่าใช้จ่าย
แน่นอนว่า SEO จะมีต้นทุนที่ต่ำกว่า เนื่องจาก Google Ads ก็คือระบบ PPC หรือ Pay Per Click ที่จะทำให้เราต้องเสียค่าใช้จ่ายให้กับทาง Google ทุกครั้งที่มีคนคลิกเข้าสู่เว็บไซต์จาก Ads ของเรา
การหวังผลในระยะสั้น vs ระยะยาว
หากหวังผลเพียงระยะสั้น อยากได้ผลเร็วๆ อยากเห็นคนเข้าเว็บ ในระยะสั้น Google Ads อาจจะสามารถตอบโจทย์ได้มากกว่า ก็เหมือนการซื้อโฆษณาทั่วๆ ไปที่เราจะได้พื้นที่เพียงชั่วคราวเท่านั้น เมื่อเราหยุดใช้บริการ Google Ads เราก็จะไม่มีพื้นที่โฆษณาเว็บไซต์ของเราต่อไป
จุดนี้จะแตกต่างกับ SEO ที่สามารถทำให้เว็บไซต์ของเราขึ้นไปอยู่บนหน้าแสดงผลการค้นหาได้เหมือนกัน โดยอาศัยการทำงานของ Google Algorithm แม้จะใช้เวลาสักพักแต่ก็จะสามารถหวังเห็นผลได้ในระยะยาวมากกว่า เนื่องจากต้นทุนที่ถูกเอาไปใช้จะเน้นไปทางการปรับปรุงแก้ไขในจุดต่างๆ ของเว็บไซต์ หรือผลิตคอนเทนต์เพื่อให้เว็บไซต์ของเราติดอันดับจริงๆ แบบเป็นธรรมชาติ ปรับปรุงเว็บไซต์ให้เข้ากับสเปกของ Google Algorithm
ทำควบคู่กันไปเลยดีไหม
Google Ads และ SEO สามารถทำงานไปพร้อมๆ กันได้แบบสบายมากๆ ถ้าอยากจะทำทั้งสองอย่าง ซึ่ง SEO ก็มีดีตรงที่ไม่มีค่าใช้จ่ายสูงอะไร เพียงแต่อาจจะมีการปรับเปลี่ยนบางอย่างกับเว็บไซต์ที่ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้จริงๆ ให้คำแนะนำ แล้วเราก็ต้องขยันอัพคอนเทนต์ที่มีคุณภาพลงเว็บไซต์ให้สม่ำเสมอ และคอนเทนต์นั้นก็ต้องมีสาระก็พอ
ในอีกแง่ การทำ Google Ads ก็มีเรื่องเราก็ต้องระวังเหมือนกัน ก็คือเราควรจะวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายของเราก่อน ควรลงทุนขนาดไหน หวังผลอะไรบ้าง ถ้าหากเราไม่ได้รีบร้อนอยากจะขึ้นหน้าหนึ่งอะไรมาก เลือกใช้แบบ SEO ทำแบบค่อยเป็นค่อนไปก็เพียงพอแล้วล่ะ
สรุปแล้ว เราควรลงทุนกับการทำ SEO หรือ PPC อะไรกันแน่ที่ดีกว่ากัน
บอกได้เลยว่า ดีหมดทั้ง 2 แบบ เพราะเมื่อเราเริ่มทำธุรกิจ การดึงดูดเว็บไซต์ให้คนเข้าถึงด้วยการทำ Google Ads จะช่วยทำให้ลูกค้าเข้าถึงธุรกิจของเราได้ไวมากขึ้น สินค้าหรือบริการเราอาจจะสามารถขายออกได้ไวกว่า เพราะเราได้ปรากฏอยู่บนหน้าแรกของกูเกิ้ลได้ตลอดระยะเวลาที่เราจ่ายเงิน แต่ยังไงในระยะยาวก็ต้องพึ่งเทคนิคการทำ SEO อยู่ด้วยเช่นกัน ไม่มากก็น้อย ขึ้นอยู่กับการแข่งขันเพื่อให้ติดอันดับในคีย์เวิร์ดเป็นกลุ่มๆ ไป
ทั้ง Google Ads และ SEO ต่างก็สำคัญต่อการทำธุรกิจกันทั้งคู่ แต่ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยและสถานการณ์ต่างๆ เช่น เป้าหมายของธุรกิต ต้นทุน เวลา หรือการหวังผลระยะสั้น-ยาว ทางที่ดีการเข้ารับการปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้าน online marketing ที่สามารถช่วยเราวิเคราะห์ได้ว่าเว็บไซต์ของเราควรใช้กลวิธีและบริการ SEO อย่างไร เพื่อให้บรรลุเป้าประสงค์ที่เราต้องการ ด้วยงบประมาณที่เรามี เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด