SEO

รู้จัก Google Keyword Planner เครื่องมือสำคัญในการวิเคราะห์คีย์เวิร์ด

Fast To Read

สำหรับคนที่กำลังทำ SEO ให้เว็บไซต์ติดอันดับ การทำ Keyword Research ถือเป็นเรื่องสำคัญในอันดับต้น ๆ และแน่นอนว่าการเลือกใช้เครื่องมือในการวางแผนทำ Keyword Research ก็สำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งหนึ่งในเครื่องมือยอดฮิตและเป็นที่รู้จักกันดีของนักทำ SEO มักจะหนีไม่พ้น Google Keyword Planner นั่นเอง สำหรับใครที่กำลังเป็นมือใหม่ในการทำ SEO บทความนี้ Search Studio จะขอพาผู้อ่านทุกท่านไปรู้จักกับ Google Keyword Planner กันให้มากขึ้น รวมถึงวิธีการใช้งานเบื้องต้น ไปติดตามพร้อม ๆ กันเลย

Google Keyword Planner คืออะไร

GOOGLE KEYWORD PLANNER คืออะไร

Google Keyword Planner เป็นเครื่องมือที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับคำค้นหาบน Google เพื่อช่วยในการวางแผนเลือก Keyword ได้อย่างเหมาะสม โดยสามารถดูปริมาณการค้นหา (Search Volume) และคำแนะนำเกี่ยวกับคำค้นหาที่เกี่ยวข้องได้ เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับการทำ SEO วางแผนกลยุทธ์การตลาดทางออนไลน์ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เริ่มต้นใช้งาน Google Keyword Planner

GOOGLE KEYWORD PLANNER คืออะไร

ก่อนอื่นต้องสมัครบัญชีก่อน ดังนี้ 

  1. สมัครบัญชี Google Account สามารถใช้เป็นบัญชีส่วนตัวหรือบัญชีสำหรับธุรกิจก็ได้ 
  2. เข้าไปที่ลิงก์ Keyword Planner หรือค้นหาคำว่า Keyword Planner
  3. คลิกที่ Go to Keyword Planner 
  4. เมื่อมีข้อความปรากฏว่า “What’s your main advertising goal?” ยังไม่ต้องกดเลือก แต่ให้เลือกเมนูด้านล่างสุดที่เขียนว่า “Experienced with Google Ads?”
  5. คลิกที่ “Create an account without a campaign” เพื่อสร้างบัญชีผู้ใช้ โดยไม่ต้องใช้ลิงก์สำหรับทำแคมเปญโฆษณา
  6. คลิก “Submit” ในหน้าถัดไป ถือเป็นการสมัครบัญชีเรียบร้อย

วิธีใช้งาน Google Keyword Planner

GOOGLE KEYWORD PLANNER คืออะไร

หลังจากที่สมัครบัญชีเรียบร้อยแล้ว เรามาดูวิธีใช้งาน Google Keyword Planner กันดีกว่า สำหรับการใช้งาน Google Keyword Planner นั้นไม่ได้ซับซ้อนมากนัก โดยวิธีการใช้งาน Google Keyword Planner มีดังนี้

  1. เข้าใช้งาน Google Keyword Planner 
  2. คลิกที่ปุ่ม Tools และเลือก “Switch to expert mode”
  3. เลือกเมนู Tools จะเห็นเมนู Keyword Planner ใต้เมนู Planner

การใช้งาน Google Keyword Planner เพื่อค้นหาคีย์เวิร์ดจะมีอยู่ 2 แบบ ได้แก่ Discover New Keywords และ Get Search Volume and Forecasts โดยทั้ง 2 แบบจะปรากฏข้อมูลคล้าย ๆ กันหลังจากที่ป้อน Keyword ลงไปแล้ว ซึ่งจะแสดงผล ดังนี้

  • Avg. Monthly Searches ที่แสดงถึงการค้นหาคำนั้นในแต่ละเดือนโดยเฉลี่ย
  • Three Month Change คือ เปอร์เซ็นความเปลี่ยนแปลงของจำนวนค้นหาคำนั้นภายใน 3 เดือน
  • YoY Change คือ เปอร์เซ็นการเปลี่ยนแปลงของ Avg. Monthly Searches ระยะเวลา 1 ปีย้อนหลัง
  • Competition คือ อัตราการแข่งขันของคำค้นหานี้บนเว็บไซต์ต่างๆ แบ่งออกเป็น 3 ระดับ สูง กลาง และต่ำ
  • Top of Page Bid (High Range) คือ การแสดงราคา Bid ในอันดับที่สูงที่สุด หรืออันดับบนๆ ของหน้าการค้นหา (Search Engine)
  • Top of Page Bid (Low Range) คือ การแสดงราคา Bid ในอันดับที่ต่ำที่สุด หรืออันดับท้ายๆ ของหน้าการค้นหา (Search Engine)

แต่จะแตกต่างกันตรงที่ Discover New Keywords จะขึ้น Keyword Ideas มาให้ด้วย ซึ่งเป็นการแสดงถึงคำค้นหาใกล้เคียง เพื่อเป็นแนวทางในการปรับใช้ Keyword ส่วน Get Get Search Volume and Forecasts เป็นส่วนที่มักจะถูกใช้ในการคาดการณ์ว่าคีย์เวิร์ดนั้นเหมาะที่จะนำไปสร้างแคมเปญโฆษณาหรือไม่

เทคนิคการใช้ Google Keyword Planner ให้มีประสิทธิภาพ

GOOGLE KEYWORD PLANNER คืออะไร

หลังจากที่เราได้รู้แล้วว่า Google Keyword Planner คืออะไร และ วิธีใช้งาน Google Keyword Planner เป็นยังไงกันบ้างไปแล้ว มาดูในส่วนของเทคนิคการใช้งาน Google Keyword Planner ให้มีประสิทธิภาพกันบ้างดีกว่า ซึ่งเทคนิคการใช้ Google Keyword Planner ให้มีประสิทธิภาพ เราได้รวบรวมมาให้แล้ว ดังนี้

  • ใส่คำค้นหามากกว่า 1 คำ

เมื่อเข้าสู่หน้า Google Keyword Planner แล้วอย่าใส่คำค้นหาเพียงคำเดียว แต่ควรใส่ลงไปหลาย ๆ คำ สำหรับการใส่คำใน Discover New Keywords สามารถใส่ได้สูงสุด 10 คำ ก็ใส่ลงไปให้ครบเลยก็ได้ เพื่อให้เครื่องมือโชว์ข้อมูลให้มากที่สุด เพื่อการนำตัวเลขมาวิเคราะห์ให้ได้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพ และเพื่อให้เครื่องมือโชว์ Keyword Ideas ขึ้นมาได้อย่างหลากหลาย

  • นำ Keyword Ideas มาใช้ร่วมด้วย

เมื่อเครื่องมือแสดง Keyword Ideas อย่าลืมเก็บเกี่ยวคำเหล่านั้นไปเป็น Keyword รองในบทความหรือเนื้อหาที่ทำสำหรับเว็บไซต์นั้น ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ติดอันดับที่สูงขึ้นและเพิ่มโอกาสให้กลุ่มเป้าหมายเข้าถึงเนื้อหามากขึ้น

  • อย่าลืมสังเกต Three Month Change

ในการทำเนื้อหาบนเว็บไซต์ มีทั้งเนื้อหาชั่วคราวและเนื้อหาที่ต้องการให้อยู่ตลอดไป เนื้อหาชั่วคราวคือต้องการโปรโมทร้านค้าหรือผลิตภัณฑ์แค่ช่วงเวลาสั้นๆ เช่น การโปรโมทคอนเสิร์ต แบบนั้นอาจไม่ต้องสนในข้อมูลส่วนของ Three Month Change มากนัก แต่ถ้าหากต้องการโปรโมทระยะยาว เช่น ร้านอาหาร โรงแรม หรือที่พัก ควรเลือกใช้ Keyword ที่มี  Three Month Change ไม่สูงนัก เพราะนั่นหมายความว่าต่อให้หลังจากนี้ไปอีก 3 เดือน คนก็ยังค้นคำนั้นอยู่ แต่ถ้าหากมีตัวเลข Three Month Change ที่สูง ก็แปลว่าหลังจากนั้นไป 3 เดือนก็อาจจะไม่มีคนค้นหาคำนั้นแล้วก็ได้ 

บทสรุป

จบไปแล้วสำหรับบทความ Google Keyword Planner คืออะไร Search Studio หวังว่าผู้อ่านทุกท่านจะรู้จักและเข้าใจการใช้งาน รวมถึงประโยชน์ของเครื่องมือ Google Keyword Planner กันมากขึ้น สามารถนำข้อมูลที่เรานำมาฝาก ไปปรับใช้ในการทำ SEO ปรับปรุงอันดับเว็บไซต์ หรือทำการตลาดอื่น ๆ ได้อย่างเหมาะสมและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด 

Written By

เมย์เริ่มงานสาย Online Marketing มาได้มาได้มากกว่า 3 ปีแล้ว และยังคงศึกษางาน SEO และ Online Marketing ต่อไป ด้วยเป็นเด็กสายวิทย์ที่ชอบการอ่านมากกว่าฟัง ชอบวิเคราะห์ มีความขี้สงสัยและต้องค้นหาเหตุผลให้เจอ ยังคงหลงใหลในศิลปะการทำอาหาร สุดท้ายแล้วขอให้แมวจรทุกตัวมีบ้านค่ะ
Views
Recommend Article

รับคำปรึกษา
SEO ฟรี!

ตรวจสถานะ SEO ของเว็บไซต์ของคุณ ฟรี พร้อมคำแนะนำจาก SEO Specialist ของเรา มูลค่า 35,000 บาท

มีจำนวนจำกัด เท่านั้น ติดต่อเราเลย

Let’s talk

Got an idea in your mind? Pop your info into our form
and we will get back to you shortly.