เมื่อโลกของการตลาดมีจุดประสงค์สำหลักคือการให้ลูกค้าเกิดความคล้อยตาม กระตุ้นอารมณ์ ความรู้สึกให้อยากซื้อ สร้างความน่าสนใจในตัวแบรนด์ สินค้าและบริการ ดังนั้นกลุ่มบุคคลที่มีความสำคัญกับส่วนนี้อย่างมากจึงต้องยกให้กับ “Copywriting” อย่างไรก็ตามเชื่อว่ายังมีคนอีกจำนวนไม่น้อยเกิดความสงสัยเกี่ยวกับความหมายของคำ ๆ นี้ Copywriting คืออะไร แล้วแตกต่างจาก Content Writing ยังไง มาหาคำตอบทั้งหมดกันได้เลย
Copywriting คืออะไร

Copywriting คือ ลักษณะการเขียนหรือสร้างสรรค์เนื้อหารูปแบบตัวหนังสือเพื่อให้ผู้พบเห็นเกิดความสนใจ กระตุ้นอารมณ์ ความรู้สึก สามารถเปลี่ยนจากกลุ่มเป้าหมายเป็นลูกค้าในอนาคตอันใกล้ หรือดึงดูดใจให้คนที่พบเห็นคล้อยตามพร้อมปฏิบัติตามคำแนะนำนั้น ๆ เช่น การดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน การสมัครสมาชิก ฯลฯ
รูปแบบของ Copywriting อาจเป็นได้ทั้งงานเขียนคำโฆษณา ประชาสัมพันธ์ แคปชั่น สโลแกน ไปจนถึงบทความสั้น ๆ เพื่อสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายผ่านช่องทางการตลาดทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นโฆษณาทีวี วิทยุ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร บิลบอร์ด โบชัวร์ มาจนถึงสื่อออนไลน์ในยุคปัจจุบันอย่าง Facebook, Instragram, TikTok, Line OA, Google Ads, เว็บไซต์ E-Commerce รวมถึงเว็บไซต์ของธุรกิจ หรือแม้แต่ Email Marketing เองก็ตาม
โดยรูปแบบการเขียนมีทั้ง แคปชั่นลงเพจ สโลแกน การเขียนบทความออนไลน์สั้น ๆ ให้เห็นผลลัพธ์ของการใช้งาน เป็นต้น ซึ่ง Copywriter คือ บุคคลที่จะสร้างสรรค์งานเหล่านี้ให้ออกมาดีที่สุด จึงต้องมีทักษะ ไอเดียสร้างสรรค์ในการใช้คำ ประสบการณ์ส่วนตัวและความรู้ ความเข้าใจที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการนั้น ๆ ด้วย
Copywriting แตกต่างจาก Content Writing อย่างไร

อีกความสงสัยที่หลายคนยังแอบสับสนกันอยู่พอสมควรนั่นคือ Content Writing หมายถึงอะไร เกี่ยวข้องกับการตลาดด้วยหรือไม่? Content Writing คือ รูปแบบการเขียนบทความที่มีเนื้อหายาว เน้นการให้ประโยชน์ ความรู้ สาระเนื้อหาทั่วไป เพื่อให้ผู้อ่านสามารถรับรู้และนำไปปรับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไปจนถึงการเขียนบท สคริปต์สำหรับนำไปบันทึกเสียงเพื่อใช้ลงช่องทางต่าง ๆ
บางกรณีอาจเพิ่มเติม Tie In สินค้าและบริการเพื่อให้ลูกค้าเล็งเห็นความสำคัญ หรือเป็นตัวเลือกเพื่อแก้ไขปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นของเขา งานเขียนลักษณะดังกล่าวจะดำเนินการโดย Content Writer ซึ่งต้องอาศัยทักษะเฉพาะทาง สำนวนการเขียนที่เหมาะสม ประสบการณ์ส่วนตัว รวมถึงต้องมีความรู้ในเรื่องที่เขียนพอสมควรสำหรับใช้สื่อสารให้ผู้อ่านเห็นภาพชัดเจนมากที่สุด
แม้ลักษณะงานของทั้ง Copywriting และ Content Writing อาจมีความแตกต่างกันบ้างแต่เรื่องจริงคือนักเขียนทั้ง 2 ลักษณะงานสามารถเป็นบุคคลเดียวกันได้ หากมีทักษะที่มากพอ อัดแน่นด้วยประสบการณ์ รวมถึงมีความเชี่ยวชาญในการดีไซน์คำ วลี หรือรู้จักนำเอาเทคนิคการเขียนทุกรูปแบบปรับใช้อย่างเหมาะสมและสร้างผลลัพธ์อันน่าพึงพอใจให้กับสิ่งที่เกิดขึ้น
Copywriting เกี่ยวข้องกับการทำ SEO อย่างไร

การทำ SEO หรือ Search Engine Optimization ถือเป็นอีกกลยุทธ์ทางการตลาดออนไลน์ที่ต้องอาศัยทักษะด้านการเขียนบทความไม่ว่าจะเป็นแบบสั้น ยาว หรือแม้แต่แคปชั่นก็ตาม ดังนั้นบทความแนว Copywriting หรือ Content Writing จึงมีส่วนสำคัญอย่างมาก ซึ่งใครที่สงสัยว่า Copywriting สำหรับการทำ SEO เป็นแบบไหน มาเช็กข้อมูลกันเลย
- ค้นหา Keyword ที่จะใช้ในการเขียนบทความเพื่อทำ SEO โดยมีทั้ง Main Keyword และ Sub Keyword
- รู้จักการวางตำแหน่งของ Keyword อย่างเหมาะสมในเนื้อหาบทความเพื่อสร้าง Engagement ที่ดี ไม่ใส่เยอะเกินไปจนกลายเป็น Spam
- การเขียนบทความ SEO อาจมีคำโฆษณา คำเชิญชวนได้ แต่เนื้อหาต้องยาวประมาณหนึ่ง (หากเทียบตามการนับจำนวนคำตาม MS Word ต้องไม่ต่ำกว่า 300 คำ)
- ต้องมี Headline โดยใส่ Keyword เข้าไปพร้อมตั้งชื่อให้น่าดึงดูดใจมากที่สุด
ก้าวเข้าสู่อาชีพ Copywriter ต้องมีความพร้อมเรื่องไหนบ้าง

1 มีทักษะการเขียนที่ดี
ไม่ว่าจะเป็นบทความสั้น ๆ แคปชั่น คำโฆษณา ไปจนถึงบทความยาวทั้งแนวให้สาระความรู้ รีวิว ใครที่อยากทำอาชีพนี้สิ่งสำคัญลำดับแรกต้องมีทักษะเกี่ยวกับการเขียนที่ดี ไม่ใช้คำฟุ่มเฟือย รู้สไตล์และกาลเทศะของแต่ละบทความ สร้างสรรค์คำเพื่อไม่ให้เนื้อหาเกิดความน่าเบื่อ และงานต้องออกมาตรงกับวัตถุประสงค์
2. เรียนรู้และเก็บประสบการณ์รอบตัวให้เยอะ
ประสบการณ์ถือเป็นครูชั้นดีที่สุด ดังนั้นอีกสิ่งที่ควรทำสำหรับใครที่อยากเป็น Copywriter คือ พยายามเรียนรู้จากสิ่งรอบตัว จดจำ และนำไปปรับใช้อย่างเหมาะสมตามสถานการณ์ของเนื้องานที่เกิดขึ้น อาจไม่ถึงขั้นใช้ทั้งหมดแต่การเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่อยู่เสมอจะทำให้ผลงานออกมาสดใหม่ ไม่ซ้ำซากน่าเบื่อ เป็นอีกวิธีสร้างสรรค์ไอเดียชิ้นงานที่ดีมาก
3. เข้าใจเนื้อหาสินค้าและบริการที่จะเขียน
อีกปัจจัยสำคัญในการทำให้งานเขียนออกมาดีเยี่ยม Copywriter ต้องเข้าใจเนื้อหา จุดเด่น หรือข้อมูลสินค้าและบริการที่จะเขียนให้ได้มากที่สุด เพื่อทุกคำพูด เนื้อหา ที่สื่อสารออกไปยังกลุ่มเป้าหมายเกิดความชัดเจน ตรงประเด็น สามารถทัชใจจนรู้สึกว่าตนเองต้องซื้อ
4. ไอเดียสร้างสรรค์ตั้งแต่หัวเรื่อง
ท้ายที่สุดเมื่อคุณมีทักษะดีแล้วก็ต้องรู้จักใช้ไอเดียสร้างสรรค์เพื่อดึงดูด กระตุ้นอารมณ์ให้กับผู้อ่านตั้งแต่คำแรก โดยเฉพาะ Headline ซึ่งมีทั้งการพาดหัวแนวเปิดตัว ตั้งคำถาม How To หรือเน้นเป็นคำสั่ง หากแวบแรกที่ผู้อ่านเห็นแล้วมันโดนใจก็พร้อมอ่านเนื้อหาอื่นต่อไปแน่นอน
บทส่งท้าย
เป็นยังไงกันบ้างสำหรับบทความนี้ นี่คือข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับ Copywriting รวมถึงความแตกต่างที่ชัดเจนของ Content Writing ซึ่งอย่างที่กล่าวไปนั้น เราสามารถเป็นได้ทั้ง Copywriter และ Content Writer ได้ เพียงแค่คุณหมั่นฝึกทักษะ เพิ่มเติมความรู้อยู่เสมอ ยิ่งการตลาดยุคใหม่ด้วยแล้ว Copywriting สำหรับการทำ SEO มีความสำคัญมาก หากปรับตัวและมีทักษะเบื้องต้นในตนเองนั้นเส้นทางความสำเร็จของอาชีพนี้ไม่ใช่เรื่องยากเลย
สุดท้ายนี้ เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยไขข้อสงสัยเกี่ยวกับ Copywriting ทั้งนี้สำหรับใครที่มีเว็บไซต์ธุรกิจอยู่แล้ว และต้องการให้เว็บไซต์ติดอันดับบน Google ทางบริษัท SEO Search Studio ของเรา มีบริการรับทำ SEO ให้เว็บไซต์ติดหน้าแรกบน Google ซึ่งช่วยให้คุณไม่ต้องเสียเวลาในการศึกษาข้อมูลให้เสียเวลา การันตีด้วยประสบการณ์ที่มากกว่า 10 ปี ซึ่งมีเว็บที่ติดอันดับต้น ๆ ของ Google มากมาย สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับทาง Search Studio ได้ที่นี่