eCommerce

ขายของแบบ Dropship คืออะไร? คุ้มไหมที่จะเปิดร้านแบบไม่ต้องลงทุน

Fast To Read

การขายของแบบ Dropship กำลังกลายเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสร้างรายได้เสริม หรือสำหรับบางคนอาจจะทำจนเป็นรายได้หลักไปเลยทีเดียว ยิ่งในยุคที่ทุกคนมีสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียวบวกกับความตั้งใจจริงก็สามารถหาเงินได้แล้ว นั่นยิ่งทำให้ระบบดรอปชิปกลายเป็นระบบค้าขายที่ใคร ๆ ก็กลายเป็นพ่อค้าแม่ค้าได้ แม้นอนอยู่กับบ้าน สำหรับใครที่กำลังสนใจการทำธุรกิจผ่านระบบดรอปชิป วันนี้เราจะชวนไปทำความรู้จักกันว่าดรอปชิป (Dropship) คืออะไร มีข้อดีและข้อเสียอย่างไรบ้าง หากอยากค้าขายด้วยระบบดรอปชิปปิ้ง (Dropshipping) มีความเสี่ยงอะไรบ้างที่เราควรรู้ ไปติดตามพร้อม ๆ กันเลย

ดรอปชิป (Dropship) คืออะไร?

Dropship 1

ดรอปชิป (Dropship) หรือดรอปชิปปิ้ง (Dropshipping) คือรูปแบบการค้าปลีกในยุคสมัยใหม่ที่อาศัยแพลตฟอร์มโซเชียลต่าง ๆ เช่น Facebook, LINE OA, Instagram หรือ X (Twitter) เข้ามาเป็นเครื่องมือ หรือสื่อกลางติดต่อระหว่างตัวแทนจำหน่ายกับลูกค้า โดยตัวแทนจำหน่ายไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน ไม่ต้องจัดสต็อกสินค้า และไม่ต้องส่งสินค้าเอง

ส่วน “ตัวแทนจำหน่าย” หรือที่นิยมเรียกว่า พ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์ก็เพียงนำข้อมูลรายละเอียด และรูปภาพสินค้ามาโพสต์ผ่านสื่อโซเชียล แล้วรอคำสั่งซื้อจากลูกค้าเมื่อลูกค้าโอนเงินแล้ว ตัวแทนจำหน่ายก็ส่งต่อข้อมูลสั่งซื้อสินค้าจากลูกค้า และจ่ายเงินค่าสินค้าให้กับพาร์ทเนอร์หรือซัพพลายเออร์ที่เป็นเจ้าของสินค้า เพื่อให้ซัพพลายเออร์จัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าโดยตรง โดยตัวแทนจำหน่ายจะได้รับเงินค่าตอบแทนจากจำนวนเงินที่บวกเพิ่มจากค่าสินค้าที่โพสต์ขายนั่นเอง

การขายของแบบดรอปชิป (Dropship) มีขั้นตอนอย่างไร?

Dropshipping Process

1. ค้นหาซัพพลายเออร์ที่เปิดรับตัวแทนจำหน่ายแบบ Dropship ซึ่งควรเลือกร้านที่จำหน่ายสินค้าที่เราสนใจหรือมีความรู้ความเข้าใจในตัวสินค้าเพื่อสะดวกในการให้คำปรึกษาลูกค้าได้ง่าย

2. เลือกชนิดสินค้าที่ต้องการ และควรศึกษารายละเอียดให้ครบถ้วนก่อนลงมือสมัคร

3. เมื่อสมัครผ่านแล้ว นำภาพสินค้าและรายละเอียดต่าง ๆ ของสินค้า มาโพสต์ลงบนแพลตฟอร์มที่เราสร้างไว้และตอบข้อสงสัยให้กับลูกค้าที่ต้องการสอบถามเพิ่มเติม

4. เมื่อลูกค้ายืนยันสั่งซื้อสินค้าแล้ว ตัวแทนจำหน่ายทำหน้าที่ส่งต่อคำสั่งซื้อไปยังซัพพลายเออร์ผู้เป็นเจ้าของสินค้า

5. ซัพพลายเออร์จะเป็นผู้ส่งสินค้าไปให้ลูกค้าเอง ภายใต้ชื่อของตัวแทนจำหน่าย

ข้อดีของการขายของแบบ Dropship

Dropship 2

1. ต้นทุนน้อยก็ลงทุนได้ เพราะตัวแทนจำหน่ายที่ใช้การขายของแบบ Dropship ไม่ต้องใช้ทุนสต็อกสินค้า ไม่ต้องสร้างโกดัง ไม่ต้องจัดส่งสินค้าเอง ทำให้ไม่ต้องใช้เงินลงทุนมาก

2. ไม่ต้องมีหน้าร้าน / ไม่ต้องเช่าพื้นที่ขาย ระบบดรอปชิปทำให้พ่อค้า แม่ค้าออนไลน์ขายสินค้าผ่านสมาร์ทโฟน และสัญญาณอินเตอร์เน็ตเท่านั้น ทำให้ไม่ต้องมีภาระค่าเช่าพื้นที่ขาย

3. มีสินค้าให้เลือกขายหลากหลายประเภท ตัวแทนจำหน่ายสามารถเลือกหาสินค้าที่กำลังอยู่ในกระแสความนิยมของลูกค้ามาขายได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าสินค้าจะค้างสต็อกขายไม่หมด

4. มีความเสี่ยงต่ำ ระบบดรอปชิปที่ทำให้ตัวแทนจำหน่ายไม่ต้องลงทุนในการเริ่มต้นค้าขาย ไม่ต้องกู้ยืมเงินก้อนใหญ่มาลงทุน จึงทำให้โอกาสในการขาดทุนและต้องชดใช้หนี้น้อยตามไปด้วย

5.ทำงานง่าย ไม่ต้องกังวลเรื่องข้อมูล ตัวแทนจำหน่ายที่ขายของแบบ Dropship จะได้รับการสนับสนุนข้อมูลข่าวสาร และรูปภาพของสินค้าที่จำหน่ายจากซัพพลายเออร์ที่เตรียมไว้ให้อยู่แล้ว เพื่อนำไปโพสต์หรือทำคอนเทนต์โปรโมทสินค้าได้เลย

ข้อเสียของการขายของแบบ Dropship

Dropship 3

1. มีคู่แข่งจำนวนมาก ส่วนหนึ่งเพราะซัพพลายเออร์ไม่ได้จำกัดจำนวนตัวแทนจำหน่าย และรูปแบบการขายของแบบ Dropship ที่สะดวกต่อพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ รวมทั้งประหยัดทั้งเงินลงทุน เวลาและความเสี่ยงต่ำ ทำให้มีตัวแทนจำหน่ายสมัครเข้ามาอยู่ในธุรกิจนี้เป็นจำนวนมาก

2. ต้องแข่งขันด้วยราคา เมื่อมีคู่แข่งจำนวนมาก ตัวแทนจำหน่ายจึงต้องหากลยุทธ์ในการดึงดูดความสนใจจากลูกค้าเพื่อเพิ่มยอดขาย นอกจากแข่งขันในเรื่องคุณภาพของสินค้าแล้ว ก็ยังต้องแข่งขันในเรื่องราคาเพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าได้ซื้อสินค้าในราคาที่คุ้มค่าที่สุด บางครั้งต้องยอมขายในราคาที่ถูกที่สุดเพื่อให้ขายได้จำนวนมาก

3. ต้องร่วมรับผิดชอบความเสียหาย ไม่ว่าเกิดกรณีความผิดพลาดใด ๆ ก็ตามในการซื้อขาย พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่อยู่ในระบบดรอปชิปจะต้องยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นก่อนซัพพลายเออร์ เพราะเป็นตัวแทนจำหน่ายที่ติดต่อกับลูกค้าโดยตรง

4. ไม่ทราบจำนวนสต๊อกสินค้าที่มีอยู่จริง เพราะตัวแทนจำหน่ายขายของแบบ Dropship มีหน้าที่โปรโมทสินค้าเป็นหลัก หากไม่มีการเช็คสต็อกสินค้ากับซัพพลายเออร์อยู่เป็นประจำ จะไม่มีทางรู้เลยว่าสินค้าที่ลูกค้าต้องในปริมาณมาก ๆ จะมีจัดส่งให้ลูกค้าได้จริงหรือไม่

บทส่งท้าย

การขายของแบบ Dropship ถือเป็นโอกาสสำหรับคนที่ชอบค้าขายผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งเป็นทิศทางการค้าขายที่ได้รับความนิยมในยุคปัจจุบัน และในอนาคตที่เทคโนโลยีจะยิ่งเข้ามามีบทบาทกับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่มากขึ้น ด้วยรูปแบบธุรกิจที่ไม่ต้องลงทุนจำนวนมาก ไม่ต้องผลิต และไม่ต้องสต๊อกสินค้าเองทำให้เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าสนใจ แต่ต้องไม่ลืมว่าก่อนที่จะลงทุนต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับซัพพลายเออร์และสินค้าที่จะนำมาจำหน่ายก่อนทุกครั้ง

Written By

เมย์เริ่มงานสาย Online Marketing มาได้มาได้มากกว่า 3 ปีแล้ว และยังคงศึกษางาน SEO และ Online Marketing ต่อไป ด้วยเป็นเด็กสายวิทย์ที่ชอบการอ่านมากกว่าฟัง ชอบวิเคราะห์ มีความขี้สงสัยและต้องค้นหาเหตุผลให้เจอ ยังคงหลงใหลในศิลปะการทำอาหาร สุดท้ายแล้วขอให้แมวจรทุกตัวมีบ้านค่ะ
Views
Recommend Article

รับคำปรึกษา
SEO ฟรี!

ตรวจสถานะ SEO ของเว็บไซต์ของคุณ ฟรี พร้อมคำแนะนำจาก SEO Specialist ของเรา มูลค่า 35,000 บาท

มีจำนวนจำกัด เท่านั้น ติดต่อเราเลย

Let’s talk

Got an idea in your mind? Pop your info into our form
and we will get back to you shortly.