การแข่งขันทางธุรกิจในโลกยุคปัจจุบันทำให้เราได้เห็นว่าสินค้าแต่ละแบรนด์ มีการนำกลยุทธ์ทางการตลาดในรูปแบบที่หลากหลายเข้ามาใช้ เพื่อสร้างความประทับใจในแบรนด์ของตนเอง และกลับมาเป็นลูกค้าประจำให้ได้ และหนึ่งในกลยุทธ์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายก็คือการเลือกใช้ Brand Ambassador หรือ Presenter ในการจูงใจลูกค้านั่นเองค่ะ
บทความนี้เราจะพาไปดูกันว่า Brand Ambassador แตกต่างจาก Presenter อย่างไร แล้วเราจะเลือกใช้ใคร สำหรับปั้นแบรนด์ให้ปัง ไปติดตามพร้อมๆ กันเลย
Brand Ambassador คืออะไร
เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นหูกันดีกับคำว่า Brand Ambassador แล้วเคยสงสัยกันหรือไม่ ว่า Brand Ambassador คืออะไร วันนี้ เราจะมาเฉลยให้ฟังกันBrand Ambassador คือ บุคคล หรือ กลุ่มบุคคลที่เปรียบเสมือนตัวแทนของแบรนด์สินค้าหรือบริการ ซึ่งมีหน้าที่สำคัญในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แบรนด์ จนกลายเป็นที่จดจำ ไว้วางใจ และเชื่อมั่นจากลูกค้า เมื่อลูกค้าให้ความเชื่อมั่นใน Brand Ambassador พวกเขาก็มักจะเชื่อมั่นในแบรนด์สินค้าหรือบริการนั่นด้วย ว่ามีคุณภาพดี จนนำมาซึ่งการซื้อ ซื้อซ้ำ และบอกต่อข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการเพิ่มยอดขายจนสร้างลูกค้าประจำ และลูกค้าหน้าใหม่ได้อย่างต่อเนื่องนั่นเองค่ะ
Brand Ambassador ทําหน้าที่อะไร
คราวนี้เรามาดูกัน ว่า Brand Ambassador ทําหน้าที่อะไรกันบ้าง เพื่อให้แบรนด์สินค้าหรือบริการได้รับความสนใจจากบรรดาลูกค้า
ข้อแรก คือ Brand Ambassador ต้องดูแลภาพลักษณ์ของตนเองให้น่าสนใจ น่าชื่นชม และน่าติดตามอยู่เสมอ เพื่อสร้างภาพจำให้กับผู้คนซึ่งคนเหล่านี้แหละค่ะ ที่จะกลายมาเป็นลูกค้าในอนาคต เพราะเมื่อมีผู้ติดตามความเคลื่อนไหว และให้ความสนใจในไลฟ์สไตล์ของ Brand Ambassador ผู้คนเหล่านี้ ก็มักจะกลายเป็นแฟนคลับที่อยากสนับสนุนคนที่พวกเขาชื่นชอบนั่นเอง
ข้อสอง Brand Ambassador ต้องสร้างความน่าเชื่อถือให้กับสินค้าหรือบริการ เพื่อให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจและติดตามใช้สินค้าและบริการอย่างต่อเนื่อง เช่น การใช้สินค้าและบริการที่ตนเองเป็น Brand Ambassador อยู่ด้วย เพื่อให้ลูกค้าที่พบเห็นมั่นใจว่าสินค้าหรือบริการอันนี้เป็นของดีจริง ซึ่งถือเป็นการยืนยันคุณภาพสินค้าและบริการได้อย่างเป็นรูปธรรมข้อสาม Brand Ambassador ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าในวงกว้างผ่านสื่อโซเชียลมีเดียในรูปแบบต่าง ๆ เพราะในยุคปัจจุบันลูกค้าติดต่อสื่อสารกันทางโซเชียลมีเดียจนเป็นสื่อกระแสหลักไปแล้วนั่นเอง แม้ Brand Ambassador บางคนอาจจะไม่ชื่นชอบโลกสมมุติ หรือไม่ชอบให้ใครมาก้าวก่ายโลกส่วนตัว แต่ก็ยังต้องมีทีมงานที่คอยจัดการหลังบ้านให้อยู่ดี
Brand Ambassador กับ Global Ambassador ต่างกันอย่างไร
Brand Ambassador โดยทั่วไปก็จะหมายถึงการเป็นตัวแทนของแบรนด์ โดยเน้นงานภายประเทศหรือภูมิภาคที่บุคคลนั้นมีชื่อเสียงค่ะ ส่วน Global Ambassador คือตัวแทนของแบรนด์ในการสื่อสารภาพลักษณ์กับผู้คนทั่วทั้งโลก ผู้ที่จะเป็น Global Ambassador ก็ต้องเป็นคนที่มีชื่อเสียง และมีผู้คนติดตามเป็นจำนวนมากจากทั่วโลก ยกตัวอย่างเช่น ลิซ่า Blackpink ที่แบรนด์ดังระดับโลกอย่าง BVLGARI จะเลือกให้เธอเป็น Global Ambassador เพื่อเดินทางไปโปรโมทสินค้าทั่วโลก ซึ่งตัวเธอเองก็เป็นลูกค้าคนสำคัญของแบรนด์ดังกล่าวด้วย
เราควรเลือกใช้ Brand Ambassador หรือใช้ Presenter ดี
อันดับแรก เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า Brand Ambassador กับ Presenter ต่างกันอย่างไร Presenter คือ คนที่มีชื่อเสียงและกำลังเป็นกระแส ซึ่งได้รับการว่าจ้างให้มาช่วยโปรโมทสินค้าหรือบริการ เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าได้รู้จักแบรนด์มากขึ้น และช่วยกระตุ้นยอดขาย หากจะเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง Brand Ambassador กับ Presenter คงเป็นความแตกต่างกันในเรื่องของความผูกพัน และระยะเวลาในการทำงานร่วมกับแบรนด์สินค้า โดย Brand Ambassador จะมีความผูกพันกับแบรนด์สินค้าอย่างลึกซึ้ง เพราะการจะถูกเลือกมาเป็น Brand Ambassador ได้นั้น จะต้องมีภาพลักษณ์ที่สะท้อนคุณค่าของสินค้า สร้างภาพจำให้กับสินค้าหรือแบรนด์ ส่วน Presenter นั้น จะถูกเลือกจากคนที่เป็นกระแสสังคม อาจจะทำงานร่วมกันเป็นบางครั้งคราวหรือในระยะเวลาอันสั้น โดยหวังผลให้สินค้ามีกระแส เป็นที่รู้จักและกระตุ้นยอดขาย
บทส่งท้าย
ไม่ว่าจะเป็น Brand Ambassador หรือ Presenter ก็มีผลในการส่งเสริมการขายหรือสร้างแบรนด์ให้ปังได้ทั้งคู่ค่ะ โดยทำหน้าที่ที่แตกต่างกัน ถ้าคุณต้องการสร้างคุณค่าและภาพจำของแบรนด์ ให้เลือกใช้ Brand Ambassador ที่สะท้อนภาพลักษณ์ของแบรนด์ และถ้าหากต้องการเพิ่มยอดขาย ขยายพื้นที่ให้ลูกค้ารู้จักแบรนด์ในวงกว้าง อาจจะเลือกใช้ Presenter ที่กำลังโด่งดัง มีกระแสมาช่วยเพื่อเพิ่มความปังของยอดขายให้ดียิ่งขึ้น