เมื่อพูดถึงการทำ SEO บนเว็บไซต์ที่เขียนด้วย JavaScript หลายคนคงจะคิดว่า ต้องมีความยากและซับซ้อนกว่าการทำ SEO บน CMS ยอดนิยมอย่าง WordPress, Wix หรือ Drupal แน่นอน ซึ่งก็เป็นความจริง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด ขอแค่เพียงคุณรู้ว่า JavaScript SEO คืออะไร และควรให้ความสำคัญกับส่วนไหนบ้าง รับรองว่า การทำเว็บไซต์ด้วย JavaScript ก็สามารถติดอันดับบน Google ได้ไม่แพ้ใครแน่นอน!
JavaScript SEO คืออะไร?
JavaScript SEO คือ การทำ SEO บนเว็บไซต์ที่สร้างด้วย JavaScript เพื่อเอื้ออำนวยให้ Googlebot สามารถเข้ามาจัดเก็บข้อมูลและจัดทำดัชนีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มโอกาสให้เนื้อหาบนเว็บไซต์ติดอันดับสูงๆ บนหน้า SERPs ของ Google ได้
ทำไมคนทำเว็บไซต์ต้องให้ความสำคัญกับ JavaScript SEO?
เว็บไซต์ที่สร้างด้วย JavaScript มักถูกออกแบบมาให้แสดงผลต่างกันไปตามผู้ใช้งานแต่ละคน เพื่อให้ตอบสนองต่อการใช้งานของ User มากที่สุด แม้ว่าจะมีข้อดีหลายอย่าง แต่ก็ส่งผลต่อการติดหน้าแรกบน Search Engine เช่นกัน
เนื่องจากการแสดงผลที่แตกต่างกันไป จะทำให้ Googlebot ไม่สามารถเห็นเนื้อหาได้ทั้งหมด และจัดเก็บข้อมูลได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ การทำ JavaScript SEO จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การทำเว็บไซต์ด้วย JavaScript มีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง
5 เทคนิคทำ JavaScript SEO ให้เว็บไซต์ติดหน้าแรก
หลังจากที่รู้แล้วว่า JavaScript SEO คืออะไร หลายคนอาจสงสัยว่า การทำ JavaScript SEO มีความแตกต่างกับการทำ SEO บนเว็บไซต์ทั่วไปไหม คำตอบก็คือมีทั้งส่วนที่เหมือนกันและส่วนที่ต่างกัน สำหรับใครที่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี ลองนำ 5 เทคนิคทำ JavaScript SEO นี้ ไปปรับใช้บนเว็บไซต์ของตัวเองได้เลย!
เลือกใช้ JavaScript Framework ที่เหมาะสม
เพื่อให้คุณสามารถทำ JavaScript SEO ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น สิ่งแรกที่ควรทำเลยก็คือการเลือกใช้ JavaScript Framework* ที่ SEO Friendly ตั้งแต่ต้น โดยตัวที่เราแนะนำก็คือ React.js, Next.js, Nuxt.js, Vue.js, Angular.js จะได้ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างเว็บไซต์ที่เป็นมิตรกับ SEO ได้ง่ายมากขึ้น
*JavaScript Framework คือ ชุดคำสั่งที่รวมองค์ประกอบของโค้ดไว้ด้วยกันในชุดเดียว สามารถควบคุมกระบวนการทำงานของโปรแกรมได้อย่างละเอียด เช่น การจัดการสถานะแอปพลิเคชัน การสร้างอินเทอร์เฟซผู้ใช้ หรือเชื่อมต่อกับฐานข้อมูล ช่วยให้เขียนเว็บไซต์ได้สะดวกและรวดเร็ว
ทำ Server-Side Rendering (SSR)
เว็บไซต์ที่สร้างด้วยภาษา JavaScript มักมีปัญหา Googlebot ไม่สามารถมองเห็นเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์ เราสามารถแก้ไขได้ด้วยการเขียนโปรแกรมแบบ Server-Side Rendering (SSR) ที่จะทำให้เกิดการเรนเดอร์หน้าเว็บไซต์บนเซิร์ฟเวอร์ก่อน แล้วค่อยส่งไปที่เบราว์เซอร์ ซึ่งจะช่วยให้ Googlebot เข้ามาอ่านเนื้อหาและ HTML ที่สมบูรณ์บนเซิร์ฟเวอร์ได้ก่อน ช่วยให้เข้าใจโครงสร้างและเนื้อหาบนเว็บไซต์ได้ดีขึ้น เข้ามา Crawling และ Index ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทำ Structured Data
Structured Data คือ การเพิ่มข้อมูลเชิงความหมายลงไปในโค้ด HTML เพื่อช่วยให้ Googlebot เข้าใจเนื้อหาบนเว็บไซต์มากขึ้น เช่น หน้านี้คือข้อมูลผลิตภัณฑ์ ส่วนนี้เป็นราคา หรือหน้ารีวิว เป็นต้น จัดเป็นส่วนสำคัญในการทำ JavaScript SEO เพราะยิ่ง Googlebot เข้าใจเนื้อหาบนเว็บไซต์มากเท่าไหร่ ก็จะเพิ่มโอกาสที่เว็บไซต์ถูกดึงไปแสดงผลการค้นหาในอันดับต้นๆ มากขึ้นเท่านั้น โดย Schema.org จะเป็นแหล่งรวมคำศัพท์และรูปแบบการทำ Structured Data ที่นิยมใช้กันอย่างกว้างขวาง
ปรับปรุง Core Web Vitals ให้ดี
การทำ SEO Friendly เป็นอีกหนึ่งส่วนที่ Google ให้ความสำคัญมาก โดยเราสามารถเช็กได้ง่ายๆ ด้วยการดู Core Web Vitals ซึ่งเป็นชุดเมตริกที่ Google ใช้วัดประสบการณ์ของผู้ใช้งานจริงสำหรับการแสดงผลของเว็บไซต์
ตัวอย่างค่าคะแนนที่ควรให้ความสำคัญ
- First Input Delay (FID): ระยะเวลาที่เว็บไซต์หน้านั้นจะตอบสนองต่อการทำกิจกรรมของ User เช่น คลิกปุ่ม กดเรียกคำสั่ง ซูมเข้า หรือซูมออก
- Largest Contentful Paint (LCP): ระยะเวลาที่คอนเทนต์ที่ใหญ่ที่สุดบนเว็บไซต์หน้านั้นจะแสดงผลให้ User เห็น
- Cumulative Layout Shift (CLS): ค่าความเสถียรการแสดงผล Layout ของเว็บไซต์หน้านั้น
- Speed index: ระยะเวลาที่เว็บไซต์แสดงผลเนื้อหาทั้งหมดบนหน้าเว็บไซต์อย่างสมบูรณ์ นับตั้งแต่ที่กดเข้าไปในเว็บไซต์นั้น
เราสามารถกดดูได้ด้วยการเข้าไปที่เว็บไซต์หน้านั้นๆ ผ่าน Google Chrome คลิกขวา เลือกหัวข้อตรวจสอบ จากนั้นให้กดไปที่ Lighthouse แล้วกดวิเคราะห์ข้อมูลได้เลย หลังจากนั้นให้แก้ปัญหาต่างๆ ตามที่โปรแกรมวิเคราะห์ออกมาให้เป็นสีเขียวทั้งหมดก็จะดีที่สุด
ทำ Sitemap ให้กับเว็บไซต์
สร้าง Sitemap HTML ไปอัปโหลดบน Google Search Console ให้เรียบร้อย เพื่อให้ Googlebot รู้ว่าเว็บไซต์ของคุณมีหน้าอะไรบ้าง และช่วยให้เนื้อหาที่อัปโหลดลงไปถูก Index แล้วนำไปจัดอันดับได้ไวขึ้นด้วย
ข้อควรระวังในการทำ JavaScript SEO
การทำเว็บไซต์ด้วย JavaScript จะมีโอกาสเกิดปัญหา Title Tag และ Meta Description ซ้ำกันได้บ่อย แนะนำให้ลองเช็กด้วย SEO Tool ที่มีชื่อว่า Ahrefs โดยเข้าไปที่เมนู Site Audit เลือกหัวข้อ Duplicates กดดู Reports จาก Overview แล้วทำการแก้ไขหน้าที่มีเนื้อหาซ้ำกันได้เลย
นอกจากนี้อย่าลืมเช็กให้ดีว่า ตั้งชื่อ ALT Attribute หรือที่เรียกกันว่า “ALT Text” บนรูปภาพไว้เรียบร้อยหรือยัง เพื่อให้ Googlebot รู้ว่าภาพนี้หมายถึงอะไร มีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาอย่าง ก็จะส่งผลต่อการทำ SEO มากขึ้น อีกทั้งยังมีโอกาสถูกดึงไปแสดงผลในหน้า Google Images ได้ด้วย
บทส่งท้าย
เป็นยังไงกันบ้างกับข้อมูลที่เรานำมาฝากในบทความนี้ หวังว่าจะช่วยให้ทุกคนเข้าใจว่าการทำ JavaScript คืออะไร และมองเห็นภาพในการทำ SEO บนเว็บไซต์ที่สร้างด้วย JavaScript มากขึ้น สำหรับใครที่ทำเว็บไซต์ด้วย JavaScript แล้วอยากให้เว็บไซต์ของตัวเองติดอันดับบน Google ได้ดีมากขึ้น อย่าลืมลองนำ 5 เทคนิคที่เราแนะนำไปปรับใช้ รับรองว่าจะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับดีขึ้นแน่นอน
และสำหรับใครที่กำลังมองหา บริษัทรับทำ SEO ที่ Search Studio ของเรามีทีมผู้เชี่ยวชาญการทำ SEO ให้ติดอันดับหน้าค้นหา สามารถติดต่อเราเพื่อพูดคุยรายละเอียดเพิ่มเติมและขอคำปรึกษาได้ที่ admin@searchstudio.digital