SEO

On-Page SEO คืออะไร? และทำอย่างไรให้ตอบโจทย์อัลกอริทึม

Fast To Read

หนึ่งในกลยุทธ์ที่บอกเลยว่าคนทำเว็บไซต์หลายๆ คนและทุกเอเจนซี่ด้าน SEO จะต้องไม่พลาด นั่นก็คือการทำ ‘On-Page SEO’ ซึ่งก็คือหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของการทำการตลาด SEO นั่นเอง โดย On-Page SEO จะเน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์แต่ละหน้าด้วยเนื้อหาที่มีคุณภาพและเป็นมิตรกับผู้ใช้ ประโยชน์ของ On-Page SEO นั้นไม่ใช่แค่การช่วยดันเว็บไซต์ให้ติดอันดับต้นๆ บนเครื่องมือค้นหา แต่ยังช่วยยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้ กระตุ้นให้ผู้ใช้ใช้เวลาอยู่บนเว็บไซต์นานขึ้นนั่นเอง ถือเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญมากในการทำ SEO จากข้อมูลทางสถิติที่จัดทำขึ้นโดย BRIGHTEDGE Research พบว่า SEO เป็นช่องทางการเพิ่ม Organic Traffic บนเว็บไซต์ได้ดีกว่าช่องทางอื่นๆ โดยมีสัดส่วนมากถึง 53% และจากการสำรวจของเว็บไซต์ Highervisibility พบว่า ผู้ค้นหาจะเลือกคลิกเว็บไซต์ที่อยู่ในหน้าแรกมากถึง 95% 

เห็นสถิติแล้วก็ถึงกับต้องร้องว้าว! ใครจะคิดว่าวิธีการทำ SEO สำหรับเว็บไซต์จะเป็นกลยุทธ์ที่เข้าถึงผู้ค้นหาหรือกลุ่มลูกค้าของเราได้มากขนาดนี้ รู้แบบนี้แล้วต้องไม่รอช้า มาดูกันดีกว่าค่ะว่า On-Page SEO สามารถเริ่มต้นทำได้อย่างไร

On-Page SEO คืออะไร

On-Page SEO คืออะไร

On-Page SEO หรือบางครั้งอาจจะใช้คำว่า On-Site SEO หมายถึงกระบวนการปรับแต่งเนื้อหาบนเว็บเพจหรือเว็บไซต์ของเราตามหลัก ‘SEO’ หรือ Search Engine Optimization ไม่ว่าจะเป็นการอัพเดทเนื้อหาบทความที่มีคุณภาพ, การเลือกใช้ Keyword, การตั้งชื่อที่อยู่ลิงค์, การใช้ Internal หรือ External Link รวมไปถึงการตั้งชื่อบนเว็บเพจหน้า Google เป็นต้น ซึ่งวิธีการต่างๆ ที่กล่าวมา ก็เป็นไปเพื่อให้เครื่องมือในการค้นหาหรือ Search Engine อย่างเช่น Google สามารถเชื่อมโยงคำค้นหาที่แมทช์กับเนื้อหาของเว็บไซต์เราได้ ซึ่งเมื่อเว็บไซต์ของเราได้รับการพิจารณาว่ามีประโยชน์ต่อผู้ค้นหา ก็มักจะได้รับเลือกให้แสดงเป็นลำดับต้นๆ ในหน้าแรกของการค้นหานั่นเอง

ความสำคัญของ On-Page SEO

On-Page SEO คืออะไร

เมื่อพูดถึงความสำคัญของ On-page SEO แล้ว อยากให้คุณลองนึกภาพตามดูว่า หากเราต้องการค้นหาข้อมูลสักอย่าง ปริมาณของข้อมูลที่เราต้องการค้นหานั้นย่อมมีมากมายไม่รู้จบ แต่จะทำอย่างไรให้การพิมพ์คำค้นหาลงบน Google แล้วผลลัพธ์ที่ออกมาคือข้อมูลที่มีประโยชน์และตรงตามที่เราต้องการมากที่สุด นี่คือความสำคัญและหลักการทำงานของ On-Page SEO ที่จะช่วยให้เว็บ Search Engine ทั้งหลายสามารถแมทช์เนื้อหาให้ตรงกับคำค้นหาหรือความต้องการของเราได้ พร้อมกับดันเว็บไซต์ที่มีประโยชน์ให้ขึ้นในหน้าแรก เพื่อตอบโจทย์การค้นหาของ User นั่นเอง

ซึ่งการจัดอันดับเว็บไซต์เพื่อขึ้นในหน้าค้นหาเป็นลำดับแรกๆ ของ Google หรือ Search Engine นั้นไม่ได้มาจากความชอบส่วนตัวแต่อย่างใดนะคะ เพราะระบบของการจัดอันดับเว็บไซต์ จะอาศัยกระบวนการทำงานที่ประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลักๆ ดังนี้ 

1. Crawling

Crawling คือการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้โปรแกรม Web Crawlers ในการติดตามลิงค์หรือเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อเก็บข้อมูล URLs ตลอดไปจนถึงเนื้อหาเว็บไซต์และส่งกลับไปยังฐานข้อมูลเพื่อจัดทำดัชนีข้อมูลนั่นเอง

2. Indexing

Indexing เป็นการจัดทำดัชนีหลังจากได้ข้อมูลมาเรียบร้อยแล้ว โดยจะเป็นขั้นตอนที่ Search Engine จะตรวจสอบและจัดเก็บเรียบเรียงข้อมูลไว้ในฐานข้อมูลหลัก เปรียบเสมือนห้องสมุดที่เป็นคลังหนังสือ ซึ่งหากเว็บไซต์ของเราได้รับการจัดทำดัชนีก็จะมีโอกาสได้รับเลือกให้นำไปแสดงบน Search Engine นั้นๆ มากยิ่งขึ้น

3. Ranking

Ranking เป็นการจัดลำดับของ Search Engine ซึ่งจะทำเป็นขั้นตอนสุดท้าย เพื่อเลือกผลลัพธ์ที่ดีที่สุดมาแสดงสำหรับการค้นหา โดยเมื่อ User ทำการค้นหา Bot ก็จะเชื่อมโยงคำค้นหากับฐานข้อมูลที่ได้มีการทำดัชนีไว้ โดยแต่ละ Search Engine ก็จะมีเกณฑ์ในการจัดอันดับที่แตกต่างกัน แต่สำหรับ Search Engine สุดฮอตอย่าง Google นั้น ก็จะมีการทำงานร่วมกันของอัลกอริทึมหลายๆ ตัว ซึ่งหลายๆ ตัวในนั้นมักจะให้ความสำคัญกับการทำ On-Page SEO โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเนื้อหาที่มีประโยชน์ และ Keyword ที่ตรงกับคำค้นหา ก็จะยิ่งทำให้อัลกอริทึมดึงเว็บไซต์ของเราขึ้นมาแสดงในหน้าค้นหาเป็นลำดับต้นๆ มากยิ่งขึ้นค่ะ

5 เทคนิคการทำ On-Page SEO ให้ตอบโจทย์อัลกอริทึม

On-Page SEO คืออะไร

เนื่องจากอัลกอริทึมของ Search Engine เอง ก็จะมองหาปัจจัยหลายๆ อย่างจากเว็บไซต์ของเราที่เข้าข่ายการเป็นเนื้อหาที่ดีและมีความเชื่อมโยงกับคำค้นหา เพื่อดันเว็บไซต์เราขึ้นไปสู่หน้าแรกของการค้นหา โดยจะยกตัวอย่างเว็บ Search Engine สุดฮอตอย่าง Google มาแนะนำ เพื่อให้การทำ On-Page SEO สามารถตอบโจทย์อัลกอริทึมมากขึ้น ด้วยเทคนิคที่สำคัญดังนี้

1. สร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ ด้วยการเขียนคอนเทนต์แบบ SEO Writing

คอนเทนต์ที่ดี ควรมีเนื้อหาสอดคล้องกับสิ่งที่ผู้คนต้องการค้นหา ซึ่งสามารถทำได้โดยการเตรียมเนื้อหาให้สอดคล้องกับหัวเรื่อง และควรเป็นคอนเทนต์เชิงลึก ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ที่ทำ รวมไปถึงเนื้อหาที่ควรมีแหล่งอ้างอิงเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับบทความและเว็บไซต์ นอกจากนี้ การใช้ประโยชน์จากการทำ SEO Writing จะช่วยให้ผู้อ่านมีความสนใจและใช้เวลาในเว็บไซต์นานขึ้น ด้วยการจัดรูปแบบให้อ่านง่าย แบ่งประเภทหัวข้อให้ชัดเจน หรือใช้ Bullet แสดงหัวข้อย่อย เพื่อลดความอัดแน่นของเนื้อหาที่ต้องการนำเสนอ และมีความยาวที่พอเหมาะ พร้อมการกระจาย Key word อย่างทั่วถึงและมากพอ

2. การใช้ Keyword 

Keyword ถือเป็นปัจจัยที่สำคัญมากสำหรับการทำ On-Page SEO เนื่องจาก Keyword ที่ดีและตรงเป้าหมายจะช่วยเพิ่มการเข้าถึงเว็บไซต์ได้มากยิ่งขึ้น เนื่องจากอัลกอริทึมจะสามารถมองหาความเกี่ยวข้องของคอนเทนต์บนเว็บไซต์ให้ตรงกับ Search Intent ได้ นอกจาก Keyword ที่ตรงกลุ่มเป้าหมายแล้ว อย่าลืม! พิจารณาถึงตำแหน่งและความหนาแน่นในการใส่ Keyword ด้วยเช่นกัน โดยควรใส่ Keyword ไว้ใน Title หรือหัวเรื่องของบทความ และ Meta Description เป็นลำดับแรก นอกจากนี้ยังควรใส่ Keyword ไว้ภายใน 100 คำแรกของคอนเทนต์เพื่อให้ Google เข้าใจได้ว่าเว็บไซต์ของเรากำลังกล่าวถึงอะไร ซึ่งความหนาแน่นของการใส่ Keyword ควรไม่น้อยกว่า 2% ของเนื้อหานั้นๆ และไม่ควรมากกว่า 4% เนื่องจากจำนวน Keyword ที่มากเกินไป จะทำให้กลายเป็น Spam Keyword ได้ค่ะ

3. การตั้งชื่อที่อยู่เว็บไซต์หรือ URLs 

การจัดการและปรับแต่ง URLs ของเว็บไซต์ถือเป็นเรื่องเล็กๆ ที่ไม่ควรมองข้ามสำหรับการทำ On-Page SEO เพราะ URLs เปรียบเสมือนแหล่งที่อยู่ของเว็บไซต์ การตั้งชื่อ URLs ที่ดีควรสั้นกระชับ และมี Keyword ที่เกี่ยวข้องอยู่ด้วยเพื่อบ่งบอกถึงเนื้อหาที่ต้องการแสดง นอกจากนี้ควรจะเพิ่มความน่าเชื่อถือโดยหลีกเลี่ยงการใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษจำนวนมากหรือสัญลักษณ์ที่ไม่ได้สื่ออะไรและยาวเกินไป เพราะจะทำให้มีความน่าเชื่อถือลดลงและอาจถูกพิจารณาได้ว่าเป็นที่อยู่เว็บไซต์ของสแปมหรือไวรัส โดย URLs ที่พบบนหน้าแรกของการค้นหาบน Google มันจะเป็น URLs ที่มีจำนวนตัวอักษร 40-100 ตัวอักษร

4. การใส่รูปภาพและสื่อมัลติมีเดียต่างๆ 

เนื่องจากบางครั้งบทความยาวๆ อาจจะทำให้เกิดความน่าเบื่อและน่าสนใจน้อยลง และทำให้ User มี Engagement กับเว็บไซต์ของเราน้อยลงตามไปด้วย ดังนั้น การใส่ภาพประกอบสวยๆ หรือแทรกกราฟ ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวข้องกับเนื้อหา จะช่วยเป็นจุดพักสายตาจากตัวอักษรจำนวนมากและช่วยทำให้ผู้อ่านเข้าใจเนื้อหาเพิ่มมากขึ้น โดยทุกรูปภาพควรใส่ Alt text หรือคำอธิบายรูปภาพแทรกไว้ใน HTML code เพื่อช่วยให้ Search Engine เข้าใจว่ารูปภาพนั้นๆ เกี่ยวกับอะไร นอกจากนี้ การกำหนดรูปแบบของรูปภาพที่เหมาะสมกับอุปกรณ์แสดงผล เช่น ขนาดที่เหมาะสมกับการแสดงผลบนโทรศัพท์มือถือ หรือการแสดงผลบน Desktop จะทำให้มีประโยชน์ต่อความเร็วในการเข้าถึงเว็บไซต์ได้อีกด้วย 

5. การทำ Internal และ External Link

การทำ Internal และ External Link ถือว่าเป็นอีกเทคนิคที่ห้ามมองข้ามเป็นอันขาดสำหรับการทำ On-Page SEO เนื่องจากเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ Google เชื่อถือและแสดงเว็บไซต์ของเราอยู่ในลำดับต้นๆ โดยจะเป็นการสร้าง Link เชื่อมโยงไปยังหน้าเว็บไซต์อื่น ซึ่งสามารถทำได้ทั้ง 

  • Internal Link: หรือที่รู้จักกันว่า Backlink เป็นการที่เว็บอื่นๆ สร้าง Link มาที่เรา เปรียบเสมือนการพูดถึงเราและอ้างอิงมาถึงเราด้วย ถือเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์และเป็นการเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ติดหน้าแรก
  • External Link: สำหรับการทำ External หรือ Outbound Link เป็นการสร้าง Link ในบทความของเราเพื่อเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์คุณภาพอื่นๆ ที่มีเนื้อหาคล้ายคลึงกับเนื้อหาของเว็บไซต์เรา หรือเพื่อเป็นการอ้างอิงนั่นเองค่ะ โดยการทำ External Link ก็สามารถช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ด้วยเช่นกัน
On-Page SEO คืออะไร

บทสรุป

นอกจากทั้ง 5 เทคนิคสำคัญที่กล่าวไปข้างต้นจะช่วยให้การทำ On-Page SEO สามารถตอบโจทย์อัลกอริทึมได้มากขึ้นแล้ว การวางรากฐานของการทำ On-Page SEO โดยผู้เชี่ยวชาญ ด้วยการจ้างบริษัทรับทำ On-Page SEO ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดอันดับเว็บไซต์ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นไปอีก อย่างเช่น Search Studio เอเจนซี่ด้าน SEO สไตล์บูทีคในไทยที่มีประสบการณ์มานานกว่า 10 ปี เพรียบพร้อมด้วยความชำนาญและประสบการณ์ รับรองว่าจะทำให้เว็บไซต์ของคุณอยู่ในลำดับแรกๆ ของการค้นหา เพิ่มกลุ่มเป้าหมายและการเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณได้อย่างยั่งยืนมากขึ้นแน่นอนค่ะ 

Written By

เมย์เริ่มงานสาย Online Marketing มาได้มาได้มากกว่า 3 ปีแล้ว และยังคงศึกษางาน SEO และ Online Marketing ต่อไป ด้วยเป็นเด็กสายวิทย์ที่ชอบการอ่านมากกว่าฟัง ชอบวิเคราะห์ มีความขี้สงสัยและต้องค้นหาเหตุผลให้เจอ ยังคงหลงใหลในศิลปะการทำอาหาร สุดท้ายแล้วขอให้แมวจรทุกตัวมีบ้านค่ะ
Views
Recommend Article

รับคำปรึกษา
SEO ฟรี!

ตรวจสถานะ SEO ของเว็บไซต์ของคุณ ฟรี พร้อมคำแนะนำจาก SEO Specialist ของเรา มูลค่า 35,000 บาท

มีจำนวนจำกัด เท่านั้น ติดต่อเราเลย

Let’s talk

Got an idea in your mind? Pop your info into our form
and we will get back to you shortly.