การวิเคราะห์คู่แข่งหรือ Competitor Analysis สำหรับ SEO เกี่ยวข้องกับกระบวนการวิเคราะห์คู่แข่งทางการตลาดที่นักการตลาดไม่เคยมองข้าม ซึ่งการทำ SEO (Search Engine Optimization) ในปัจจุบันนับเป็นเรื่องที่ใหญ่ ซับซ้อน และมีการแข่งขันสูง การทำความเข้าใจคู่แข่งทางธุรกิจจึงสำคัญมาก หากต้องการประสบความสำเร็จในการทำเว็บด้วย SEO เราจึงจำเป็นจะต้องทำความรู้จัก competitor analysis คืออะไร มีความสำคัญกับการเอาชนะคู่แข่งทางธุรกิจอย่างไร เรามาดูกันเลย
Competitor Analysis สำหรับ SEO คืออะไร
Competitor analysis คือกระบวนการประเมินและวิเคราะห์ศักยภาพเว็บไซต์ของคู่แข่งทางธุรกิจโดยนำมาเปรียบเทียบกับเว็บไซต์ของเราเอง กระบวนการวิเคราะห์คู่แข่งทางการตลาดแนวทางนี้ จะไม่ใช่การคัดลอกคู่แข่ง แต่จะเป็นการนำข้อมูลคู่แข่งทางธุรกิจมาวิเคราห์ แล้วนำข้อมูลที่วิเคราะห์มาใช้ประโยชน์เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นสำหรับผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราเอง อีกทั้งยังเป็นกลยุทธ์การเพิ่มประสิทธิภาพให้เว็บไซต์ของเราติดอันดับต้นๆ บน Search Engines ผ่านกลยุทธ์ SEO ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการประเมินกลยุทธ์คอนเทนต์บนเว็บไซต์ การศึกษาและกำหนด Keyword สำคัญที่จะใช้ในเว็บไซต์ การทำโปรไฟล์ลิงก์ย้อนกลับ การพัฒนากลยุทธ์เนื้อหาบนเว็บไซต์ ตลอดจนเทคนิคการเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์โดยรวมต่างๆ หากเราจริงจังกับการเอาชนะคู่แข่ง การวิเคราะห์คู่แข่งทางการตลาดก็เป็นเรื่องสำคัญไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะการเรียนรู้พื้นฐาน SEO ถือเป็นส่วนสำคัญในการประสบความสำเร็จด้านธุรกิจออนไลน์ ซึ่งช่วยให้เว็บไวต์ของเราติดอันดับบน Search Engines เหนือคู่แข่งได้นั่นเอง
เหตุใดการวิเคราะห์คู่แข่ง SEO จึงมีความสำคัญ
Competitor analysis มีความสำคัญในการวิเคราะห์คู่แข่ง SEO อย่างมาก เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยให้เราได้ทำความเข้าใจคู่แข่งทางธุรกิจว่ากำลังใช้กลยุทธ์อะไรบ้างในการขึ้นมาอยู่หน้าแรกบน Google SERP ช่วยให้เราสามารถเปรียบเทียบสิ่งที่เราทำในการทำ SEO กับคู่แข่งว่าเว็บไซต์ของเราดำเนินกลยุทธ์ไปถึงไหนแล้ว ทั้งยังช่วยให้เราวิเคราะห์กลยุทธ์การทำ SEO ของตนเอง ส่งผลให้เราได้มองเห็นภาพรวมของกลยุทธ์ต่างๆ รวมถึงจุดอ่อนและจุดแข็งของเว็บไซต์คู่แข่ง โดยความสำคัญของการวิเคราะห์ competitor analysis มีดังนี้
- ช่วยให้เราเรียนรู้ถึงกลยุทธ์ SEO ต่างๆ ของคู่แข่งที่ทำให้คู่แข่งประสบความสำเร็จ ซึ่งสามารถนำมาพัฒนากลยุทธ์ SEO สำหรับเว็บไซต์ของเราให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
- การวิเคราะห์คู่แข่ง SEO สามารถช่วยตอบคำถามต่าง ๆ ได้ ซึ่งจะช่วยให้เราดำเนินกลยุทธ์ได้อย่างมีเป้าหมายและมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จมากขึ้น เช่น
– ใครคือคู่แข่งการทำ SEO ในประเภทธุรกิจหรือบริการเดียวกันกับเรา
– เราควรกำหนด Targeted Keyword อะไรบ้างที่จะใช้ภายในเว็บไซต์
– ภาพรวมการแข่งขันระหว่างเว็บไซต์ของเราและคู่แข่งมีลักษณะอย่างไรบ้าง?
– บทความหรือคอนเทนต์ในเว็บไซต์ของเราควรครอบคลุมหัวข้อใดบ้าง? - ในกรณีที่เว็บไซต์คู่แข่งทางธุรกิจล้มเหลวในการทำ SEO เราสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลเชิงลึกที่เราได้รับจากการวิเคราะห์ competitor analysis ของคู่แข่งนั้นๆ เพื่อนำมาพัฒนา ปรับปรุง แก้ไข ป้องกันไม่ให้เว็บไซต์ของเราล้มเหลวเหมือนคู่แข่งทางการตลาดได้ วิธีนี้จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้เว็บไซต์เราได้อีกด้วย
กลยุทธ์การวิเคราะห์คู่แข่งด้านการทำเว็บ SEO
Competitor analysis จะมีหลายวิธีในการวิเคราะห์ศักยภาพคู่แข่งทางธุรกิจ โดย Ahrefs ถือเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มากสำหรับการหาเว็บไซต์คู่แข่งและการได้ข้อมูลเชิงลึกของเว็บไซต์คู่แข่ง ซึ่งการศึกษาเว็บไซต์ของคู่แข่งอย่างรอบด้าน จะมีกลยุทธ์พื้นฐานในการวิเคราะห์ดังต่อไปนี้
กำหนดคู่แข่ง เพื่อให้รู้ว่าคู่แข่งคือใคร?
โดยปกติหากเราเป็นเจ้าของโดเมนของเว็บไซต์ ส่วนใหญ่เราจะรู้อยู่แล้วว่าใครคือคู่แข่งทางธุรกิจ แต่สำหรับบางคนที่ไม่รู้ว่าคู่แข่งของเราคือใคร เราสามารถใช้ปัจจัยเหล่านี้มาช่วยวิเคราะห์เว็บไซต์ที่มีแนวโน้มจะเป็นคู่แข่งของเราได้ กล่าวคือ โดยทั่วไปเว็บไซต์คู่แข่งในการทำ SEO จะเป็นเว็บไซต์ที่ติดอยู่อันดับต้นๆ บนหน้าแรกจากการค้นหาข้อมูลทั้งใน Google หรือ Search Engines อื่นๆ โดยเราจะสังเกตเห็นได้ว่าเว็บไซต์นั้นๆ มักจะมีคำค้นหาหรือ targeted keyword เดียวกันหรือคล้ายกันกับเว็บไซต์ของเรา นอกจากนี้ ส่วนใหญ่เว็บไซต์คู่แข่งในการทำ SEO จะมีผลิตภัณฑ์และบริการที่คล้ายคลึงกันกับเว็บไซต์ของเรา โดยคู่แข่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่
- คู่แข่งทางตรง (Direct Competitors) คือ คู่แข่งที่ขายผลิตภัณฑ์และบริการประเภทเดียวกันกับเรา
- คู่แข่งทางอ้อม (Indirect Competitors) คือ คู่แข่งที่ขายผลิตภัณฑ์และบริการต่างกันกับเรา แต่มีกลุ่มลูกค้าใกล้เคียงกันกับเรา
สิ่งสำคัญคือเราต้องเข้าใจว่าคู่แข่งในการทำ SEO มีความแตกต่างกับคู่แข่งที่มีหน้าร้านจริง เพราะหากเว็บไซต์คู่แข่งมีผลิตภัณฑ์หรือบริการหลากหลาย หรือมีบทความที่ครอบคลุมหัวข้อต่างๆ คู่แข่งในโลกออนไลน์จะสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการของตนเอง หรือได้รับ organic traffic ผ่านบทความต่างๆ ได้มากกว่าการมีเพียงหน้าร้าน ซึ่งสิ่งนี้ถือว่าสำคัญในการกำหนดกลยุทธ์ SEO เพื่อเอาชนะคู่แข่งในโลกธุรกิจดิจิทัล
ศึกษาคู่แข่งอย่างรอบด้าน
ก่อนทำ SEO เราจะต้องศึกษาข้อมูลเว็บไซต์คู่แข่งอย่างละเอียดและรอบด้านในทุกแง่มุม เพื่อจะได้รู้ว่าเรากำลังจะแข่งขันกับใครและการแข่งขันนี้ยากง่ายเพียงใด ซึ่งเราจำเป็นจะต้องใช้ competitor analysis ในการวิเคราะห์เว็บไซต์คู่แข่งจากปัจจัยเหล่านี้ ได้แก่
- การวิเคราะห์ Keyword ที่ใช้ในเว็บไซต์ของคู่แข่ง
- การวิเคราะห์โปรไฟล์ลิงก์ย้อนกลับ (Backlink Profile) ของคู่แข่ง
- การวิเคราะห์คอนเทนต์หรือบทความของคู่แข่ง
- การวิเคราะห์ลิงก์ย้อนกลับ (Backlink) ของคู่แข่ง
- การวิเคราะห์ความแข็งแกร่งหรือ Domain Authority ของคู่แข่ง
สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เราเข้าใจบริบทการแข่งขันในสนามที่เราต้องการทำธุรกิจได้เป็นอย่างดี หากเว็บไซต์คู่แข่งทำ SEO ได้ดี มีบทความหรือคอนเทนต์ที่ได้รับความสนใจเยอะ เราจะสามารถใช้ประโยชน์จากหัวข้อบทความหรือคอนเทนต์ที่พวกเขาทำมากำหนดกลยุทธ์ด้านคอนเทนต์สำหรับเว็บไซต์ของเราเองได้ ในขณะเดียวกัน หากเราพบผลิตภัณฑ์หรือบริการที่คู่แข่งไม่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ เราก็สามารถนำมาใช้ปรับปรุงรูปแบบธุรกิจของเราเองได้ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการเหล่านี้บนเว็บไซต์ของเราเองและนำเสนอให้ดีกว่าคู่แข่ง
เอาชนะการแข่งขันด้วยการมองหาโอกาสจากคู่แข่ง
กลยุทธ์สุดท้ายของ Competitor analysis คือ การมองหาโอกาสที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของเรามีประสิทธิภาพเหนือกว่าคู่แข่งหรือเรียกอีกอย่างว่าการทำเว็บไซต์ให้อยู่ในอันดับสูงกว่าคู่แข่ง ด้วยการใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนของคู่แข่งและนำมาปรับปรุงเว็บไซต์ของเราเอง ซึ่งจะช่วยให้เว็บไซต์ของเรามีทั้งคุณภาพและประสิทธิภาพในระยะยาว โดยให้วิเคราะห์คู่แข่งในแต่ละด้าน ดังนี้
- การใช้ Keyword ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจในเว็บไซต์ของคู่แข่ง
- เนื้อหาภายในเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นบทความ คอนเทนต์ต่างๆ ภาพกราฟิก ไฟล์ภาพ เป็นต้น
- External Link (ลิงก์จากภายนอกที่ลิงก์มาที่เว็บไซต์ของคู่แข่ง)
วิธีการค้นหาเว็บไซต์คู่แข่ง
ค้นหาเว็บไซต์คู่แข่งด้วยตนเอง
การค้นหาคู่แข่งด้วยตนเองสามารถทำได้โดยการค้นหา Keyword ที่จะใช้ภายในเว็บไซต์ของเราเองบน Google หรือ Search Engines อื่นๆ จากนั้นจดบันทึกผลลัพธ์ของเว็บไซต์ที่ติดอยู่อันดับต้นๆ ทั้งหมด เมื่อลองค้นหาดูด้วย Keyword หลายคำแล้ว หากพบว่ามีเว็บไซต์โดเมนเดียวกันปรากฏในผลการค้นหาอย่างต่อเนื่อง นั่นหมายความว่าเว็บไซต์ดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะเป็นคู่แข่งหลักของเรา โดยการค้นหาคีย์เวิร์ดด้วยตนเองบน Google นั้น เราควรใช้ Keyword เพียงไม่กี่คำถึงจะได้ผลลัพธ์ที่เป็นไปได้ เช่นเดียวกัน เราไม่ควรใช้ Keyword หลายคำเกินไปเพื่อค้นหาคู่แข่ง เพราะอาจได้คู่แข่งที่ไม่ใช่คู่แข่งของเราจริงๆ
ค้นหาเว็บไซต์คู่แข่งโดยใช้ Semrush
การค้นหาคู่แข่งทางธุรกิจของเราบนเว็บไซต์ Semrush จะช่วยให้เราเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกได้ทั้งฝั่งของตัวเองและคู่แข่ง เป็นวิธีการที่ง่ายและประหยัดเวลาอีกด้วย เพียงทำตามขั้นตอน ดังนี้
- คลิกที่ลิงก์ https://www.semrush.com/ ซึ่งเป็นเว็บของ Semrush และพิมพ์ URL ลงไปในช่อง “Domain Overview” แล้วเลือกคลิกเมนูแถบต่าง ๆ ทางด้านซ้ายมือ ซึ่งมีคุณสมบัติต่างกัน เช่น
- แถบเมนู “Main Organic Competitors” แสดงเว็บไซต์คู่แข่งที่ถูกจัดอันดับด้วย Keyword ที่คล้ายกับเว็บไซต์ของเราและมีกลุ่มผู้ชมหรือลูกค้าที่คล้ายกัน
- แถบเมนู “View all” แสดงคู่แข่งทั้งหมดของเรา รวมถึงข้อมูลต่างๆ ที่ลึกขึ้น ตลอดจนจำนวน Keyword รวมถึงจำนวนการเข้าชม (Traffic) เว็บไซต์คู่แข่ง
- แถบเมนู “Common Keywords” แสดงภาพรวม Keyword ทั้งหมดจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ในแต่ละ Keyword
Competitor analysis เป็นกระบวนการประเมินเว็บไซต์คู่แข่ง เพื่อนำมาเปรียบเทียบและวิเคราะห์กับการทำ SEO ภายในเว็บไซต์ของเราเอง เพื่อช่วยให้เรามีอันดับบน Seach Engines เหนือกว่าเว็บไซต์คู่แข่ง หากใครสนใจทำ SEO ให้กับเว็บไซต์เพื่อเอาชนะคู่แข่งทางธุรกิจ ขอแนะนำ Search Studio เราคือเอเจนซี่ SEO ครบวงจรอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย ซึ่งเรารับทำ SEO ทั้งภาษาไทยและอังกฤษ โดยใช้เทคนิคที่จะส่งผลให้ธุรกิจของคุณเติบโตในระยะยาว Search Studio ยังมีบริการรับทำ SEO ครบวงจร มีแพ็คเกจ Technical SEO, Link Building SEO, ตลอดจน Onpage SEO สำหรับธุรกิจทุกระดับ ช่วยประหยัดเวลา ลดค่าใช้จ่าย ราคาย่อมเยา เพิ่มยอดเข้าชม สามารถขอคำปรึกษาเกี่ยวกับกลยุทธ์ SEO กับเราได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายตั้งแต่วันนี้!