Marketing

การยิงแอดคืออะไร มีกี่รูปแบบ คนทำการตลาดออนไลน์ต้องรู้

Fast To Read

เมื่อโลกออนไลน์เข้ามามีบทบาทกับการใช้ชีวิตของทุกคน ธุรกิจจำนวนมากก็ต้องเปลี่ยนตนเองเพื่อก้าวให้ทันกระแสและยุคสมัย การตลาดออนไลน์จึงเป็นช่องทางที่จะช่วยนำเสนอแบรนด์สินค้าและบริการของคุณออกสู่สายตาของผู้บริโภคได้มากที่สุด ซึ่งหนึ่งในกลยุทธ์ที่มาแรงและยังคงได้รับความนิยมมาตลอดหลายปีนั่นคือ การยิงแอดโฆษณา (ยิง Ads) หากใครกำลังศึกษาหรือกำลังปรับธุรกิจของตนเองสู่โลกดิจิทัล ลองมาทำความรู้จักกันดีกว่านะคะว่าการยิงแอดคืออะไร มีกี่รูปแบบ พร้อมเทคนิคที่ทำให้ผลลัพธ์ดีสุด ๆ

การยิงแอดคืออะไร?

google ads logo

การยิงแอดโฆษณา (Advertising) คือ กลยุทธ์ทางการตลาดออนไลน์ประเภทหนึ่งซึ่งจะใช้วิธีซื้อโฆษณาผ่านช่องทางที่แพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ได้มีการกำหนดรูปแบบเอาไว้ เช่น Google หรือ Social Media โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อสื่อสารข้อมูลของแบรนด์ สินค้า บริการ ไปสู่กลุ่มเป้าหมายที่คาดว่าจะเป็นลูกค้าในอนาคต ช่วยให้เกิดการรับรู้ สร้าง Brand Awareness เพิ่มยอดขายและผลกำไรให้มากขึ้นกว่าเดิม

การยิงแอดมีกี่รูปแบบ

หลังจากรู้จักกันไปแล้วนะคะว่าการยิง Ads คืออะไร เรื่องต่อมาที่ขอแนะนำเพิ่มเติมนั่นคือ รูปแบบการยิงแอดผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ในปัจจุบัน เพื่อให้ทุกคนสามารถนำไปพิจารณาและเลือกช่องทางที่เหมาะสมกับธุรกิจของตนเองกันได้ค่ะ

1. การยิงแอดแบบ Pay Per Click (PPC)

การยิงแอดแบบ Pay Per Click (PPC) เป็นรูปแบบของการยิงแอดผ่านช่องทางเว็บไซต์ประเภท Search Engine (เว็บค้นหา) เช่น Google, Yahoo, Bing เป็นต้น ลักษณะของการทำโฆษณาแบบ PPC จะต้องทำการ Bid ราคา Keyword ที่ผู้ซื้อต้องการเพื่อให้เว็บไซต์ของตนเองถูกโฆษณาขึ้นไปอยู่บนหน้าแรกของ Search Engine นั้น ๆ ยิ่ง Keyword ที่มีการแข่งขันสูงราคาก็ยิ่งสูงขึ้น แต่โอกาสที่ผู้คนพบเห็น คลิกเข้ารับชม เกิดการรับรู้ และตัดสินใจซื้อสินค้าก็มีมากขึ้นด้วย ซึ่งการคลิกแต่ละครั้งของผู้เยี่ยมชมตรงนี้เองค่ะที่จะถูกคำนวณเป็นค่าใช้จ่ายที่ทางเว็บไซต์ต้องจ่ายให้กับแพลตฟอร์มตามราคา Bid ที่ตกลงกัน

ยกตัวอย่างในเมืองไทย เว็บ Search Engine ที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ Google ดังนั้นการยิงแอดใน Google ต้องใช้เครื่องมือที่ชื่อ Google Adwords เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนให้ครบถ้วน จากนั้นพอโฆษณาของคุณขึ้นบนหน้าค้นหาของ Keyword นั้น ๆ เรียบร้อย เมื่อมีคนคลิกก็จะต้องจ่ายเงินในระบบ Pay Per Click (PPC) นั่นเท่ากับถ้าโฆษณาของคุณได้รับความสนใจ มียอดคนกดคลิกเข้าไปเยอะ ก็จะมีค่าใช้จ่ายในการยิง Ads เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นั่นเองค่ะ

2. การยิงแอดแบบ Display Ads

หากอธิบายแบบเข้าใจง่าย การยิงแอดแบบ Display Ads คือวิธียิงแอดโดยใช้ภาพโฆษณา (Banner) หรือ วิดีโอโฆษณา ลงไปบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่หากเป็นภาพป้ายโฆษณาหรือแบนเนอร์ ก็จะอยู่บนเว็บพันธมิตรของ Google โดยทาง Google จะนำโฆษณาของคุณไปแปะไว้บนเว็บพันธมิตรต่าง ๆ ที่มีเนื้อหาใกล้เคียงกัน เพื่อให้กลุ่มลูกค้าที่มีแนวโน้มสนใจเรื่องดังกล่าวรับชม สร้างโอกาสคลิกเข้าไปบนหน้าเว็บไซต์มากขึ้น ส่วนการทำ Display Ads แบบวิดีโอที่พบเห็นบ่อยคือโฆษณาบนช่อง YouTube ซึ่งก็มีด้วยกันหลายแบบขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้ลงโฆษณาเลยค่ะ เครื่องมือที่ใช้ก็ยังคงเป็น Google Adwords และการชำระเงินก็ยังคงอยู่ในรูปแบบ Pay Per Click (PPC) นั่นคือ เมื่อมีการคลิกผู้ลงโฆษณาถึงจะจ่ายเงินค่ะ

อย่างไรก็ตาม การยิงแอด 2 ประเภทแรกมักถูกจัดรวมอยู่ในกลุ่มที่เรียกว่า การยิงแอดผ่าน Google (SEM) ซึ่งสามารถแบ่งประเภทออกได้ดังนี้ค่ะ

1. Search Ads – วิธียิงแอดบนเว็บ Search Engine โดยใช้ระบบชำระเงินแบบ PPC เว็บจะแสดงผลการค้นหาตาม Keyword ที่ใช้บนหน้าแรก เพื่อให้ผู้ที่สนใจหาเจอและคลิกเข้าไปบนหน้าเว็บของคุณง่ายขึ้น

2. Display Ads – การทำแบนเนอร์แล้วให้ Google หรือ Search Engine ไปลงบนเว็บพันธมิตรตามที่แนะนำไปเลยค่ะ

3. Video Ads – หรือจะเรียก YouTube Ads ก็ได้เช่นกัน เพราะจะลงผ่านเว็บ YouTube รวมถึงยังแบ่งประเภทย่อย ๆ ออกได้ ดังนี้

  • Skippable In-Stream Ads – สามารถกดข้ามได้เมื่อถึงเวลาที่กำหนด
  • Non-Skippable In-Stream Ads – ต้องดูจนจบโฆษณา ไม่สามารถกดข้ามได้
  • Bumper Ads – ความยาวไม่เกิน 6 วินาที ปรากฏได้ทั้งก่อน – ระหว่าง – หลังคลิปวิดีโอ กดข้ามไม่ได้
  • Outstream Ads – ความยาวไม่เกิน 6 วินาที ปรากฏได้ทั้งก่อน – ระหว่าง – หลังคลิปวิดีโอ กดข้ามไม่ได้เมื่อดูผ่านสมาร์ทโฟน
  • Masthead Ads –ความยาวตั้งแต่ 30 วินาทีขึ้นไป ปรากฏได้ทั้งก่อน – ระหว่าง – หลังคลิปวิดีโอ กดข้ามไม่ได้เมื่อดูผ่าน Desktop
  • Video Discovery Ads – ปรากฏด้านบนสุดเมื่อค้นหาคลิปต่าง ๆ ด้วย Keyword

4. Shopping Ads – โฆษณาจะปรากฏบนหน้า Seach Engine ในรูปแบบการให้กดคลิกเข้าไปหน้าเว็บไซต์ E-Commerce เพื่อซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น

5. App Ads – แบนเนอร์ภาพ วิดีโอ เมื่อใช้งานบนแอปที่เป็นพาร์ทเนอร์กับ Google 

3. การยิงแอดแบบ Social Ads

วิธียิงแอดรูปแบบสุดท้ายคือการยิงแอดผ่านช่องทาง Social Media ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, TikTok, X (Twitter) เป็นต้น ซึ่งแต่ละแพลตฟอร์มก็จะมีรูปแบบ ความเหมาะสม และจุดประสงค์ของการยิงโฆษณาแตกต่างกันออกไปค่ะ เช่น 

1. Facebook มักเป็นช่องทางการยิงแอดที่ได้รับความนิยมมากสุดเพราะมีบัญชีผู้ใช้งานเยอะสุดในโลก เลือกรูปแบบได้หลากหลาย เช่น 

  • Carousel Ads ยิงแอดแบบภาพอัลบั้ม
  • Video Ads ยิงแอดแบบวิดีโอ
  • Image Ads ยิงแอดแบบภาพนิ่ง
  • Slide Show Ads ยิงแอดแบบภาพนิ่งหลายภาพสไลด์โชว์
  • Stories Ads ยิงแอดผ่าน Stories หรือ Reels 
  • Messenger Ads ยิงแอดในข้อความ Messenger
  • Collection Ads ยิงแอดแบบส่งต่อไปยังหน้าเว็บ E-Commerce ของธุรกิจ
  • Playable Ads ยิงแอดแบบให้ทดลองเล่นสั้น ๆ ได้

2. TikTok แพลตฟอร์ม Social Media ที่กำลังมาแรงสุด ๆ มักเป็นการยิงแอดแบบวิดีโอสั้น มีหลายเทคนิคให้เลือกใช้เช่นกัน อาทิ 

  • Brand Takeover วิดีโอ + แคปชั่น แสดงหน้า Feed ครั้งแรกเมื่อเปิดแอป
  • Top View วิดีโอ + แคปชั่น แสดงหน้า Feed เมื่อรีเฟรช
  • In-Feed Ads ได้รับความนิยมมากสุด แทรกอยู่ในหน้า Feed
  • Hashtag Challenge โปรโมทแฮชแท็กแคมเปญ
  • Branded Effect โปรโมทเอฟเฟกต์ AI ของธุรกิจ

3. Instagram ส่วนใหญ่จะเน้นการยิงแอดกับสินค้าที่เน้นความสวยงามเมื่อถ่ายออกมาเป็นรูปภาพหรือวิดีโอสั้นแบบ Reels รูปแบบจะคล้ายกับ Facebook 

4. X (Twitter) นิยมยิง Ads ที่เป็นกระแสให้คนเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว หรือต้องการสื่อสารแบรนด์ให้ผู้ที่สนใจรู้จักมากขึ้น มีทั้งแบบข้อความ รูปภาพ วิดีโอ

 

เทคนิคการยิงแอดให้ตรงจุด ได้ผลลัพธ์ที่ดี

1. กำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน

การยิงแอดโฆษณาเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีต้องรู้ก่อนว่ากลุ่มเป้าหมายของธุรกิจเป็นใคร เช่น เพศ อายุ ช่วงเวลาที่นิยมใช้งาน เพราะการที่กลุ่มเป้าหมายมองเห็นโฆษณาของคุณ นั่นหมายถึงโอกาสที่พวกเขาจะตัดสินใจซื้อย่อมมีมากกว่าการส่งไปยังคนทั่วไปที่ไม่ได้มีความสนใจหรือไม่ใช่ Target กลายเป็นการเสียต้นทุนโดยใช่เหตุ

2. กำหนดช่องทางที่กลุ่มเป้าหมายนิยมใช้งาน

เมื่อรู้แล้วว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณเป็นใคร คราวนี้ก็มาเลือกช่องทางที่คนเหล่านั้นนิยมค้นหาสินค้าหรือบริการ เช่น ถ้าเป็นคนวัยทำงานมักเน้นข้อมูลสินค้ามากกว่าโฆษณาแบบฉาบฉวย การเลือกใช้ Google Ads หรือการยิงแอดใน Google จึงเป็นวิธีที่ตอบโจทย์มากที่สุด เป็นต้น

3. เนื้อหาของโฆษณาต้องดึงดูด

ข้อนี้เป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กันเลยนะคะเมื่อคุณจะยิง Ads ด้วยวิธีใดหรือช่องทางไหน การทำเนื้อหาโฆษณาให้ดึงดูด น่าสนใจ เป็นสิ่งที่จะสร้างแรงกระตุ้นให้คนอยากเข้ามารับชมมากขึ้น ยิ่งถ้าโฆษณาชิ้นนั้นกลายเป็นไวรัลด้วยแล้วคราวนี้ไม่ใช่แค่การสร้างยอดขายแต่ยังเพิ่ม Brand Awareness ได้ในวงกว้างอีกด้วย

4. ห้ามลืม CTA (Call To Action)

ทุกครั้งเมื่อยิงแอดอย่าลืมทำ CTA หรือ Call To Action พูดง่าย ๆ มันคือการเชื้อเชิญให้คนที่รับชมเรียบร้อยแล้วกดเข้ามาซื้อสินค้าหรือบริการของคุณ หรืออย่างน้อยก็คลิกเข้ามาดูข้อมูลเพิ่มเติมผ่านช่องทางที่ธุรกิจแนะนำเอาไว้ ซึ่งการที่พวกเขาดูสนใจย่อมหมายถึงพวกเขามีโอกาสที่จะเปลี่ยนมาเป็นลูกค้าของคุณ

5. เก็บข้อมูลสถิติเพื่อนำไปปรับปรุง

ข้อดีอย่างหนึ่งของการยิงแอดโฆษณาออนไลน์คือทุกแพลตฟอร์มจะมีตัวเลขสถิติต่าง ๆ บอกเอาไว้ให้กับผู้ลงโฆษณาแบบครบถ้วนเลยค่ะ คุณสามารถนำเอาตัวเลขเหล่านั้นไปวิเคราะห์ ปรับปรุง แก้ไข และสร้างโฆษณาชิ้นใหม่ให้ถูกใจกลุ่มเป้าหมายมากกว่าเดิมไม่ยากเลย

นี่คือข้อมูลทั้งหมดสำหรับการยิงแอดโฆษณา หรือการยิง Ads สำหรับคนเลือกทำธุรกิจออนไลน์ อย่าลืมศึกษาข้อมูลและรายละเอียดต่าง ๆ ให้ครบถ้วน วิเคราะห์แล้วตัดสินใจทำอย่างรอบคอบนะคะ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์อันน่าพึงพอใจสูงสุด และที่สำคัญเกิดการต่อยอดที่ดีในระยะยาวอีกด้วย

Written By

ด้วยใจรักในการพบเจอสิ่งใหม่และความสนใจในด้านการตลาด จึงกระโดดมาเข้าสายงาน SEO และพบว่า SEO เป็นเรื่องสนุกและมีสิ่งใหม่ให้ทำความเข้าใจอยู่เสมอ ทั้งกลยุทธ์การพิชิตอันดับบน Search Engine ความรู้ใหม่ๆ ที่ต้องคอยอัปเดต รวมถึง Tools ที่ช่วยในการทำงานอย่างน่าทึ่ง แต่ชีวิตก็ยังรายล้อมไปด้วยท้องฟ้าหลากสี ซีรีส์น่าติดตาม เพลงสุดโปรด และความน่ารักของสัตว์โลกที่เต็มหน้าฟีด ขอให้ทุกคนได้พบสิ่งฮีลใจในทุกเช้า :)
Views
Recommend Article

รับคำปรึกษา
SEO ฟรี!

ตรวจสถานะ SEO ของเว็บไซต์ของคุณ ฟรี พร้อมคำแนะนำจาก SEO Specialist ของเรา มูลค่า 35,000 บาท

มีจำนวนจำกัด เท่านั้น ติดต่อเราเลย

Let’s talk

Got an idea in your mind? Pop your info into our form
and we will get back to you shortly.