สำหรับใครก็ตามที่กำลังเป็นเจ้าของธุรกิจ แต่ธุรกิจในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าแค่ธุรกิจเดียว หลายคนอาจมีทั้งเปิดร้านออนไลน์ หรือเปิดเพจเฟสบุ๊คต่างๆ ไว้ ทำให้ในทุกๆ วันอาจจะต้องดูแลเพจเฟสบุ๊คในมือ มักจะต้องพบเจอกับปัญหาการดูแลจัดสรรเพจ เพราะแน่นอนล่ะ พอเรามีเพจธุรกิจมากมายอยู่ในมือ การจะจัดสรรปันส่วนให้ทุกๆ เพจที่เรามีออกมาอย่างเป็นระบบระเบียบก็เลยกลายเป็นเรื่องยากตามไปด้วยโดยปริยาย
ดังนั้น ใครหลายๆ คนจึงหันมาพึ่งพา Facebook Business Manager กันมากขึ้น เพราะนอกจากเจ้าตัวนี้จะช่วยให้ระบบการจัดการเพจเราง่ายขึ้นได้อย่างมากมายแล้วนั้น เรายังสามารถจัดการกับระบบการขายของเราได้แบบง่ายๆ ด้วยเจ้า Facebook Manager กันอีกต่างหาก โดยการทำงานของมันจะเป็นยังไงและจะเจ๋งขนาดไหน ไปดูกัน!
Facebook Business Manager คืออะไร
สำหรับ Facebook Business Manager หรือถ้าจะให้แปลกันแบบตรงๆ ก็คือ บัญชีสำหรับจัดการตัวธุรกิจ (ตัวจัดการธุรกิจ) ซึ่งเจ้าตัวนี้ก็มีขึ้นมาเพื่อไว้ซัพพอร์ท คอยช่วยจัดการบัญชีการขายของเราต่างๆ มากมาย จึงเหมาะเป็นอย่างมากสำหรับคนที่มีหลายๆ เพจ หรือหลายๆ ธุรกิจ
ซึ่งเราจะสามารถเจรจาต่อรองกับทาง Facebook เพื่อให้จัดการในส่วนของ Facebook Profile, Facebook Fan Page, Facebook Ad Account กี่อันก็ได้ขึ้นอยู่กับการเจรจาต่อรองของเรากับ Facebook และสามารถที่จะจัดการได้ว่าคนนี้ให้ดูได้เฉพาะแฟนเพจไหนบ้าง คนนี้ให้ดู Ad Account พอนะ ซึ่งเมื่อเราใช้บริการ Facebook Manager เราจะสามารถจัดการในรายละเอียดส่วนนี้ได้แบบตลอดเวลาเพียงปลายคลิกเลยนั่นเอง
ทำให้คนเป็นเจ้าของธุรกิจทั้งหลาย ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า Facebook Business Manager นั้น เหมาะกับคนที่มีหลายบัญชีและหลายแฟนเพจ เพราะเมื่อเราใช้ Facebook Manager แล้ว เราจะสามารถเข้าไปดูเพจทั้งหมดของเราได้เลย จึงนับว่าเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ของทางเฟซบุ๊กที่สร้างความสะดวกสบายให้กับเหล่าเจ้าของธุรกิจได้แบบแท้จริง
ส่วนประกอบหลักของ Facebook Manager
โดยส่วนประกอบหลักของเจ้าตัว Business Manager จะแบ่งเป็นลำดับดังนี้
– Business ชื่อธุรกิจของที่เราได้สร้างไว้ทั้งหมด เพื่อนำมาจัดการบัญชีโฆษณาและเพจต่างๆ ที่เราเป็นเจ้าของหรือผู้จัดการ
– Ad Account บัญชีโฆษณา ตัวนี้มีไว้ใช้สำหรับจัดการเรื่องโฆษณาของเพจไม่ว่าจะเป็นการซื้อโฆษณาเพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness) การมีส่วนร่วม (Engagement) และอื่นๆ กระทั่งช่วยในเรื่องของงบประมาณ การจ่ายเงินต่างๆ ด้วย
– Pages รวบรวมเพจที่เราเป็นเจ้าของและเป็นผู้จัดการ โดยจะช่วยให้สะดวกในการจัดการหลายๆ เพจพร้อมกัน
– Image บรรดารูปภาพต่างๆ ที่เราต้องการใส่
ประโยชน์ของตัวจัดการบัญชีธุรกิจ Facebook Manager
ดูแล จัดการ เพจและบัญชีโฆษณา (Ad Account) ได้หลายบัญชี
สำหรับใครที่มีบัตรเครดิตหลากหลายธนาคาร เราก็สามารถผูกบัญชีบัตรเครดิตแตกต่างกันได้ หรือจัดวางแอดมินที่แยกกัน ก็สามารถทำได้อย่างชัดเจน ทำให้เหล่าบรรดาเอเจนซี่หรือบริษัทที่ค่อนข้างใหญ่จึงมักเลือกใช้ Facebook Manager
สร้างกลุ่มเป้าหมายเชิงลึกได้
เมื่อเราใช้ Facebook Manager เรายังสามารถสร้างกลุ่มเป้าหมายเชิงลึกอย่างการสร้าง Custom Audience และ Lookalike Audience ที่เอาข้อมูลที่เรามีมาใส่ในระบบ Facebook ได้ด้วยล่ะ
แชร์การเข้าถึงได้สะดวก
เหมาะเป็นอย่างมาก หากเรามีหลายเพจที่ต้องดูแล หรือมีทีมงานมากพอสมควร เราจะสามารถบริหารจัดการการเข้าถึงในส่วนต่างๆ ได้อย่างสะดวก ใครต้องทำอะไรบ้าง เราจะ Assign ได้แบบชัดเจน และยังสามารถแชร์กลุ่มข้อมูลต่างๆ ให้กันและกันได้ด้วย
เข้าถึงเครื่องมือขั้นสูง
เมื่อเราใช้ในส่วนที่เป็น Facebook Manager จะมีแถบสีเทาที่มีเครื่องมือต่างๆ ให้เล่นอีกมากมาย เช่น
• Audience Insight เอาไว้ดูข้อมูลเชิงลึกของคนใน Facebook
• Campaign Planner เครื่องมือช่วยวางแผนโฆษณาบน Facebook ก่อนสร้างจริง
• Facebook Analytics ที่เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลตัวใหม่ที่ค่อนข้างละเอียดมากๆ นับว่าเป็นโปรแกรมอีกหนึ่งตัวที่น่าใช้งานและน่านำมาใช้งานมากที่สุดตัวหนึ่งเลยนั่นเอง
วิธีสร้าง Facebook Manager
ส่วนวิธีสร้าง Facebook Manager หรือ “ตัวจัดการธุรกิจ” นั้นก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด ทำได้ง่ายๆ ดังต่อไปนี้ (ตัวอย่างเป็นภาษาไทย)
1. ไปที่ business.facebook.com
2. คลิก “สร้างบัญชี”
3. ใส่ชื่อธุรกิจบัญชีผู้ใช้ของคุณ ซึ่งควรใส่ให้ตรงกับชื่อธุรกิจ รวมทั้งใส่ชื่อและอีเมล แล้วกดถัดไป
4. ใส่ข้อมูลในช่องที่เหลือซึ่งจะเป็นข้อมูลที่อยู่ เว็บไซต์
5. จะมีช่องให้เลือกสองช่องคือให้เลือกว่าเราใช้เครื่องมือตัวนี้ในการโปรโมทธุรกิจของเราเอง หรือมีไว้จัดการธุรกิจคนอื่น (สำหรับเอเจนซี่)
6. จากนั้นคลิก “ส่ง” เพียงเท่านี้ก็พร้อมใช้งานกันได้แล้วล่ะ
Facebook Manager ดียังไง?
นับว่าเป็นเรื่องจำเป็นมากๆ เลยก็ว่าได้ หากเราเป็นเจ้าของเพจซึ่งในที่นี้จะเหมาะเหม็งเป็นอย่างมากสำหรับคนที่มีหลายๆ เพจ เพราะเจ้าตัวนี้จะช่วยจัดการได้แทบทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็น เรื่องโฆษณา โพสต์ เพจ รวมไปถึงบัญชีโฆษณาของแต่ละเพจ พอเรานำเพจไปเชื่อมโยงเข้ากับ Facebook Manager มันก็จะช่วยจัดการด้านการดูแลเพจ Facebook ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นไปโดยปริยาย
แต่ถ้าสำหรับคนที่มีอยู่เพจเดียวแล้วถามว่าจำเป็นต้องมีมั้ย จะว่าไปก็ไม่มีความจำเป็นเท่าไหร่ แต่มันจะช่วยให้การจัดการเพจเป็นไปอย่างระบบระเบียบและมีประสิทธิภาพมากขึ้นซะมากกว่า ซึ่งถ้าหากใครมีทุนอยู่พอสมควรแล้วอยากจะแลกกับระบบจัดการเพจที่มีประสิทธิภาพล่ะก็ ยังไงก็คุ้ม!
ได้เวลาลงมือทำ
นับว่าเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์แห่งความสุดยอดของ Facebook Business Manager ที่นอกจากจะช่วยจัดสรรปันส่วนทำให้ระบบจัดการเพจในเฟซบุ๊กของเราเป็นไปอย่างราบรื่นและมีระบบระเบียบแล้วนั้น มันยังช่วยสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าร้านเราได้ง่ายขึ้นตามไปด้วย
และนี่แหละก็คือเหตุผลที่ว่าทำไม เราถึงต้องมารู้จักกับ Facebook Manafger อีกหนึ่งตัวช่วยบน Facebook ที่เหล่านักการตลาดให้ความสนใจ! ถ้าคุณมีหลายเพจที่ต้องดูแลหล่ะก็ มาลองใช้เครื่องมือเจ๋งๆ นี้ดู!
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook for Business (TH)
ทั้งหมดนี้ เป็นคำแนะนำเบื้องต้นจากเสิร์ชสตูดิโอ เราหวังว่าทุกคนจะสามารถนำไปปรับใช้สำหรับใครที่กำลังจะเปิดร้านหรือเพจบน Facebook กันนะคะ เราเป็นกำลังใจให้ทุกคน
หากต้องการบริการรับทำ SEO และ Technical SEO ที่มีคุณภาพสูงและรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญติดต่อเราได้ที่นี่เลยค่ะ