นวัตกรรมเครื่องมือ AI (Artificial Intelligence) ในปัจจุบันได้รับความนิยมและตอบสนองความต้องการในการทำงานของสายดิจิทัลมากยิ่งขึ้น โดยเครื่องมือ AI ได้เข้ามาช่วยให้มนุษย์ทำงานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ซึ่งมี AI ช่วยเขียนบทความ AI ออกแบบโลโก้ AI สร้างรูป และอื่น ๆ อีกมากมาย
แน่นอนว่าถ้ายุคนี้ใครใช้ AI ไม่เป็น ก็อาจจะดูล้าสมัย และเติบโตไม่ทันกระแสของโลกที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นบทความนี้จะพูดถึงเครื่องมือ AI มีอะไรบ้าง? และ AI ที่ใช้ในชีวิตประจำ รวมไปถึงประโยชน์ของ AI จะมี AI ตัวไหนน่าสนใจบ้าง ไปดูกันเลย!
เครื่องมือ AI มีประโยชน์อย่างไรในสายงานดิจิทัล
ต้องเกริ่นก่อนว่าเครื่องมือ AI (Artificial Intelligence) หรือปัญญาประดิษฐ์ เป็นโปรแกรมที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อทำให้คอมพิวเตอร์สามารถคิดและวิเคราะห์ได้เหมือนมนุษย์ โดยสามารถวางแผนและตัดสินใจได้ด้วยตนเองจากฐานข้อมูลขนาดใหญ่ ซึ่งในยุคนี้ AI กลายเป็นเครื่องมือที่นิยมใช้ในหลากหลายธุรกิจ และในอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นในด้านการแพทย์ การเดินทางและท่องเที่ยว การบริการลูกค้า หรือการตลาด เป็นต้น เพื่อช่วยให้การทำงานที่ซับซ้อนกลายเป็นเรื่องง่าย มีประสิทธิภาพ และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ประโยชน์ของ AI ที่ใช้ในสายงานดิจิทัล มีประโยชน์หลากหลาย และทำให้งานดิจิทัลก้าวหน้าไปอีกขั้น ดังนี้
เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
แน่นอนว่าผู้ที่สามารถปรับตัวให้เข้ากับการใช้เครื่องมือ AI จะเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานอย่างมาก เพราะเพียงป้อนข้อมูลที่ต้องการใส่เครื่องมือ AI ก็จะได้รับไอเดียใหม่ ๆ ในการทำงาน พร้อมคำแนะนำจาก AI อีกด้วย
การวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อน
เครื่องมือ AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อนหรือข้อสรุปที่มนุษย์อาจมองข้าม ด้วยการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ที่รวดเร็วและแม่นยำ ซึ่ง AI สามารถวิเคราะห์และสรุปข้อมูลได้ในเวลาอันสั้น ช่วยให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจได้รวดเร็วและมั่นใจมากขึ้น
การสร้างเนื้อหาและการออกแบบอัตโนมัติ
ช่วยสร้างเนื้อหาต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น เขียนบทความ การวางโครงสร้างของ Artwork หรือการออกแบบวิดีโอ เป็นต้น นอกจากนี้ AI ยังสามารถออกแบบรูปภาพ หรือสร้างโลโก้ให้กับแบรนด์ธุรกิจได้เช่นกัน
ลดระยะเวลาในการทำงาน
การใช้เครื่องมือ AI ในสายงานดิจิทัล จะช่วยลดระยะเวลาในการทำงานซ้ำ ๆ เช่น ช่วยคิดไอเดียเนื้อหา ช่วยวางแผนการตลาด ช่วยบริหารจัดการงบประมาณ หรือการทำแบบประเมิน เป็นต้น
ปรับเปลี่ยนเนื้อหาให้มีประสิทธิภาพ
หากมีเนื้อหาเก่า ๆ ที่ไม่มีการอัปเดตเป็นเวลานาน สามารถใช้เครื่องมือ AI นำบทความไป Rewrite ให้เป็นเนื้อหาใหม่ หรือการปรับปรุง Keyword ที่ใช้ในเว็บไซต์ เพื่อจัดทำ SEO ให้มีอันดับดียิ่งขึ้น รวมไปถึงยังสามารถปรับเปลี่ยนเนื้อหาให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงประโยชน์ของ AI ส่วนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งเครื่องมือ AI จะมีประโยชน์ที่แตกต่างกันไป และยังมีรูปแบบที่ใช้งานไม่เหมือนกัน ดังนั้นเราจะพาคุณไปดู 7 เครื่องมือ AI ที่ใช้ในชีวิตประจำวันสำหรับสายดิจิทัล ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้น ตามไปดูกันเลย!
ChatGPT
ChatGPT ถือเป็นเครื่องมือ AI ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปัจจุบัน และหลาย ๆ สายงานมักจะนำ AI ไปใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่ง ChatGPT ถูกออกแบบมาเพื่อทำความเข้าใจ และตอบสนองต่อภาษาของมนุษย์ ทำให้สามารถสนทนาได้เหมือนมนุษย์จริง โดยผู้ใช้งานปรับแต่งและฝึกสอนระหว่างบทสนทนา เพื่อทำให้ AI เข้าใจข้อมูลที่คุณป้อนเข้าไปได้มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้การใช้งานที่โดดเด่นเลย คือ เป็น AI ช่วยเขียนบทความ และแปลภาษาออกมาให้เข้าใจง่ายได้ดีอีกด้วย
Jasper.ai
Jasper.ai คือ แพลตฟอร์มการเขียนที่ใช้ AI ในการสร้างเนื้อหาต่าง ๆ เช่น Blog, Post, บทความรีวิว และอื่น ๆ ที่มีคุณภาพสูง พร้อมทั้งสร้างเนื้อหาได้หลากหลายภาษ มี Template ที่สอดคล้องกับเนื้อหา ซึ่งผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องมีทักษะเฉพาะทางในการใช้งาน ภายในเครื่องมือจะมีการแนะนำและผู้สนับสนุนระหว่างการใช้งาน อีกทั้งช่วยวิเคราะห์เนื้อหาจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ และสามารถปรับให้เหมาะสมกับแบรนด์หรือองค์กรได้อย่างง่ายดาย
MarketMuse
MarketMuse คือ เครื่องมือ AI ใช้ในการวิเคราะห์และสร้างเนื้อหาสำหรับการตลาด และการจัดอันดับ SEO โดยจะวิเคราะห์ Keyword และสร้างแผนในการปรับปรุงเนื้อหาให้เหมาะสมกับกลุ่มตลาด นอกจากนี้ยังนำไปใช้สำหรับปรับเปลี่ยนเนื้อหาให้มีคุณภาพ และใส่แหล่งอ้างอิงที่น่าเชื่อถือ อีกทั้งยังมีระบบติดตามและรายงานผลการประเมินเนื้อหา และความสำเร็จในการดำเนินการตามแผน ถือว่าเป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับนักการตลาด และนักทำ SEO เป็นอย่างยิ่ง
Synthesia
Synthesia เป็นเครื่องมือ AI สร้างวิดีโอการนำเสนอ โดยสามารถเลือกและปรับแต่งตัวละครให้พูดตามข้อความที่ใส่ลงไป รองรับการสร้างวิดีโอได้หลายภาษา เหมาะสำหรับการสร้างวิดีโอที่ใช้ในการประชาสัมพันธ์ การฝึกอบรม หรือการสื่อสารภายในองค์กร นอกจากนี้ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ในการถ่ายทำ ประหยัดค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี อีกทั้งไม่จำเป็นต้องมีทักษะในการตัดต่อวิดีโอ ก็สามารถใช้ AI สร้างวิดีโอได้ง่าย ๆ
Stock AI
Stock AI คือแพลตฟอร์มออกแบบภาพที่ใช้ AI ช่วยในการสร้างและปรับแต่งภาพ เพื่อให้มีความสอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้ เพียงแค่ใส่ Keyword ที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นภาพบุคคล สัตว์ สถานที่ท่องเที่ยว หรืออื่น ๆ ก็สามารถสร้างภาพออกมาให้คุณได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย อีกทั้งสามารถนำรูปภาพจากเครื่องมือ AI ไปใช้งานรูปแบบส่วนตัว หรือเชิงพาณิชย์ได้เช่นกัน ส่วนผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องมีทักษะในการออกแบบรูปภาพ ถือเป็นเครื่องมือ AI สร้างรูปภาพที่ใช้งานง่ายและเป็นมิตรต่อผู้ใช้ทุกคน
Supercreator.ai
Supercreator เป็นเครื่องมือที่ใช้ AI ในการสร้างและจัดการเนื้อหาทางดิจิทัล และถือเป็นเครื่องมือที่เหมาะสมสำหรับนักการตลาด นักเขียน และนักธุรกิจ เพราะสามารถสร้างเนื้อหาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อความ ภาพ และมัลติมีเดีย อย่าง Reel, Short หรือจะนำไปใช้ใน TikTok โดยใส่ Keyword ที่ต้องการ จากนั้นเครื่องมือ AI จะดำเนินการสร้างพื้นหลัง คิด Caption และ Hashtag ให้อัตโนมัติ อีกทั้งยังช่วยตัดต่อวิดีโอให้อัตโนมัติอีกด้วย เรียกได้ว่าพร้อมนำเนื้อหาที่ได้รับไปเผยแพร่หรือโปรโมทได้ทันที
Logomaster.ai
Logomaster.ai เป็นเครื่องมือ AI ออกแบบโลโก้ที่มีความเป็นมืออาชีพ และมีความเป็นเอกลักษณ์สูง โดยภายในเครื่องมือจะมีตัวเลือกมากมาย เช่นปรับแต่งสี, ตัวอักษร, รูปแบบ และอื่น ๆ เพื่อให้ตรงกับสไตล์และตัวตนของแบรนด์ ซึ่งผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องมีทักษะเฉพาะทาง เครื่องมือ AI จะสร้างโลโก้ที่มีคุณภาพและสวยงามได้เหมือนกับนักออกแบบมืออาชีพ ทำให้เป็นเครื่องมือที่น่าสนใจและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างโลโก้ได้ดีเลยทีเดียว
บทสรุป
สำหรับบทความทั้ง 7 เครื่องมือ AI นี้ Search Studio หวังว่าคุณจะนำประโยชน์และความสามารถของ AI มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้หลากหลาย เพราะ AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดระยะเวลาการทำงาน และช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณภาพและเป็นเอกลักษณ์ได้อย่างมืออาชีพ ซึ่งเราได้รวมเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับสายงานดิจิทัลที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการ และปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยได้เป็นอย่างดี Let’s work smarter, not harder!